5 กลยุทธ์ ที่จะช่วยให้ลูกน้อยนั้นเชื่อฟังและเข้าใจคุณแม่มากยิ่งขึ้น

เชื่อว่าปัญหาลูกดื้อลูกซนนั้นจะต้องพบเจอกันได้ทุกบ้านอย่างแน่นอน ซึ่งพฤติกรรมหรือลักษณะนิสัยเช่นนี้นั้นเกิดจากปัจจัยหลายอย่างที่เป็นสิ่งที่หล่อหลอมพฤติกรรมของลูก รวมถึงการเลี้ยงดูด้วยเช่นกัน สำหรับบ้านไหนที่กำลังประสบกับปัญหาลูกดื้อไม่ยอมเชื่อฟังอยู่นั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกไปในทางที่ดีได้ด้วยวิธีการพูดหรือการสื่อสาร ทำให้เขาเชื่อฟัง และไม่ต่อต้านเรา ซึ่งวิธีการสื่อสารหรือการพูดกับลูกนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญและละเอียดอ่อนอย่างมาก มีผลต่อจิตใจเชื่อมโยงไปถึงพฤติกรรมที่แสดงออกมา โดยเฉพาะในช่วงวัย 2-5 ขวบ เด็กจะเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่เขายังไม่สามารถควบคุมอารมณ์หรือยังสื่อสารได้ไม่ดีพอ จึงต้องอาศัยให้คุณพ่อคุณแม่นั้นหล่อหลอมให้เขาเติบโตมาเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมที่ไม่ก้าวร้าวและเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่ถึงแม้ว่าลูกยังกำลังโมโหอยู่ก็ตาม วันนี้เราจึงมีกลยุทธ์ในการพูดกับลูกน้อย ให้เชื่อฟังแบบนุ่มนวล จะมีวิธีใดบ้างนั้นไปติดตามกันเลย เรียกชื่อลูกอยู่เสมอ วิธีนี้จะช่วยดึงดูดความสนใจของลูกให้เขาหันมาสนใจและตั้งใจฟังในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่กำลังจะพูด เคล็ดลับในการเรียกชื่อลูกนั้นคุณควรเรียกชื่อลูกแล้วหยุด เรียกจนกว่าลูกจะหันมามองเราอย่างตั้งใจแล้วจึงค่อยเริ่มอธิบายเหตุผลต่างๆให้ลูกเข้าใจในเรื่องที่ทำให้โกรธหรือโมโห สิ่งสำคัญคุณพ่อคุณแม่จะต้องคุยด้วยเหตุผลไม่ใช้อารมณ์ ใช้คำพูดที่นุ่มนวล ไม่ทำร้ายจิตใจ ต้องพูดให้เข้าใจง่ายและกระชับ เป็นเรื่องที่สำคัญมากหากคุณพ่อคุณแม่ต้องการจะสอนอะไรให้กับเด็กในช่วงวัยนี้ ซึ่งเขายังไม่สามารถรับฟังและทำสิ่งต่างๆหลายๆอย่างในเวลาเดียวกันได้ ลูกจะจับใจความได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นหากคุณพ่อคุณแม่พูดยาวเกินไปเด็กจะเกิดอาการงง และไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูด กลับกลายเป็นงอแงและไม่ฟังเหตุผล ดังนั้นหากลูกกำลังโมโหอยู่ให้คุณพูดกับลูกสั้นๆ กระชับได้ใจความ ไม่บ่นยืดเยื้อ หากลูกทำผิดให้พูดอธิบายว่าเขาทำผิดอะไร และให้โอกาสเขาได้ทบทวนว่าตัวเองผิดจริงหรือไม่ วิธีนี้จะช่วยให้ลูกมีความคิดเป็นระบบและเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองทำผิดได้มากยิ่งขึ้น ใช้น้ำเสียงที่ถูกต้องและถูกเวลา การใช้น้ำเสียงนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากการคุยกับลูกด้วยเสียงที่ดัง หรือตะโกนกับลูกตลอดเวลาเขาจะไม่เข้าใจว่าเราต้องการจะสื่อสารอะไร ส่งผลกระทบให้เขาไม่รับฟังหรือไม่ปฏิบัติตาม ดังนั้นจะต้องสร้างกฎบอกให้เขาเข้าใจว่าน้ำเสียงแบบนี้แปลว่าอะไรแม่กำลังโกรธอยู่นะ ให้เขาได้รับรู้ในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อสารด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่ทรงพลัง สิ่งที่สำคัญและจะต้องระวังเป็นอย่างมากเลยคือการใช้น้ำเสียงที่ดังดุลูกอยู่บ่อยๆ จะทำให้เขาติดพฤติกรรมจากเรา จนกลายเป็นนิสัยไม่ดีนั่นเอง ใช้คำพูดในด้านบวก การเลี้ยงลูกในยุคสมัยใหม่นี้คุณพ่อคุณแม่จะต้องพยายามอย่าใช้คำว่า ไม่ หรือห้าม กับลูก รวมถึงปรับเปลี่ยนคำพูดให้เป็นไปในทางบวกมากยิ่งขึ้นเช่น ถ้าเราไม่อยากให้ลูกวิ่งเราไม่ควรห้ามลูกว่า อย่าวิ่งนะลูก แต่ควรเปลี่ยนเป็นใช้คำว่า […]