ห้ามพลาด มาทำความรู้จักกับ Shaken Baby Syndrome อันตรายอย่างไร มาดูกัน

Shaken Baby Syndrome  เป็นอีกหนึ่งโรคที่พ่อแม่มือใหม่ควรระวัง เป็นโรคที่ต่างประเทศตระหนักกันมายาวนานแล้ว ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดอันตรายสำหรับเด็กทารกได้ง่ายมาก และรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตมากถึง 1 ใน 3 เลยทีเดียว เป็นโรคที่มักพบได้บ่อยในเด็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปีส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการเขย่าลูกแรงๆด้วยความตั้งใจไม่ว่าจะเป็นการเอ็นดู การโมโห หรือการเล่นกับลูกด้วยวิธีเหล่านี้ ไม่เหมาะสมอย่างทำให้เนื้อสมองกระแทกกับกะโหลกศีรษะและอาจจะรุนแรงถึงขั้นมีเลือดออกในสมองได้เลยทีเดียว สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดของโลกนี้กันได้เลย

1. มาทำความรู้จักกับโรค Shaken Baby Syndrome

1. มาทำความรู้จักกับโรค Shaken Baby Syndrome

เป็นกลุ่มอาการของทารกที่ถูกเขย่าอย่างรุนแรงจนทำให้ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน หรือมีอาการบาดเจ็บภายในกะโหลกศีรษะ ส่วนใหญ่แล้วจะพบในเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ เนื่องจากกะโหลกศีรษะของเด็กนั้นยังฟอร์มตัวได้ไม่เต็มที่ เมื่อโดนเขย่าอย่างรุนแรงอาจทำให้เนื้อสมองนั้นมากระทบกับกะโหลกศีรษะ จนอาจทำให้เส้นเลือดฉีกขาดเกิดเลือดคั่งในสมองได้เลยทีเดียว

2. สาเหตุของโรค Shaken Baby Syndrome

2. สาเหตุของโรค Shaken Baby Syndrome

ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากการเลี้ยงดูของผู้ใหญ่เป็นหลักเลย โดยเฉพาะเด็กในช่วง 3 เดือนแรกซึ่งมักจะมีอาการโคลิค ร้องไห้ไม่หยุด จนอาจทำให้พ่อแม่นั้นเกิดความเหนื่อยล้าและเกิดความเครียดสะสมจนอาจเผลอเขย่าตัวเด็กแรงๆ ก็มีสิทธิ์ทำให้สมองได้รับการกระทบกระเทือนได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากการเล่นกับเด็กรุนแรงด้วยการเขย่าด้วยความเอ็นดู หรือโยนขึ้นกลางอากาศแล้วเด็กรู้สึกหัวเราะชอบใจ แต่อันที่จริงแล้ว พฤติกรรมเหล่านั้นก็เสียงที่ทำให้สมองของเด็กนั้นได้รับการกระทบกระเทือนเช่นกัน

3. ผลกระทบกับเด็กทารก

3. ผลกระทบกับเด็กทารก

การเล่นผาดโผนหรือเขย่าลูกอย่างรุนแรงนั้น โดยเฉพาะในช่วงแรกเกิดจนถึง 2 ปี อาจทำให้สมองได้รับการกระทบกระเทือน เนื่องจากกล้ามเนื้อคอของเด็กนั้นยังไม่แข็งแรงไม่สามารถที่จะพยุงศีรษะของตัวเองได้อาจทำให้เส้นเลือดบริเวณเยื่อหุ้มสมองนั้นเกิดการฉีกขาดเลือดออกในสมอง ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อภาวะพิการตลอดชีวิตได้ด้วยเช่นกัน เพราะสมองเป็นศูนย์รวมของระบบระบบประสาททุกส่วนของร่างกาย ทำให้พัฒนาการช้า มีโอกาสเกิดอัมพาต สติปัญญาอ่อน หรือในเด็กบางรายอาจกระทบกระเทือนที่ดวงตา เสี่ยงต่อตาบอดได้นั่นเอง 

4. วิธีสังเกตุอาการ

4. วิธีสังเกตุอาการ

ว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือนหรือไม่ หากมีอาการทางสมองจะสังเกตได้ว่าเด็กจะมีอ้วกพุ่ง หรืออาการอาเจียนอย่างรุนแรง มีภาวะหายใจติดขัด ไม่สามารถกลืนน้ำลายได้เอง โดยเฉพาะในเด็กเล็กจะไม่ยอมดูดนมหรือมีอาการซึมอย่างเห็นได้ชัด สมองไม่ตอบสนอง หรือในเด็กบางรายมีอาการหน้าผากบวม ต้องรีบพบแพทย์ทันที เพื่อได้รับการวินิจฉัยอาการที่ถูกต้อง เพื่อรักษาได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง

5. วิธีการป้องกัน Shaken Baby Syndrome

5. วิธีการป้องกัน Shaken Baby Syndrome

ให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ตระหนักไว้เลยว่าศีรษะของเด็กทารกนั้นยังไม่แข็งแรง ไม่สามารถที่จะพยุงคอตัวเองได้ต้องให้ประคองศีรษะอยู่ตลอดเวลา ไม่อุ้มเด็กให้หัวสั่นคลอนอย่างรุนแรง ไม่อุ้มกล่อมเหวี่ยงไปมา โดยเฉพาะการเล่นกับเด็กโยนขึ้นลงในอากาศซึ่งเราเห็นภาพนี้ได้บ่อยมาก ถึงแม้ว่าเด็กจะสนุกสนานชอบใจแต่จะทำให้กระทบกับสมองของเด็กอย่างแน่นอน สำหรับเด็กที่มีอาการโคลิคร้องไห้ตลอดเวลา ให้คุณพ่อคุณแม่มีสติและควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ไม่โมโหและ จับตัวลูกเขย่าอย่างรุนแรง เพราะนั่นอาจทำให้สมองกระทบกระเทือน เสี่ยงต่อภาวะพิการ หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ Shaken Baby Syndrome ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้จะเห็นได้ว่า เป็นกลุ่มอาการที่พ่อแม่มือใหม่จะต้องศึกษาและระมัดระวังอย่างมาก เพราะอาจส่งผลกระทบกระเทือนต่อสมองของลูกโดยตรง เพราะเราจะเห็นภาพที่ผู้ใหญ่เล่นกับเด็กโยนขึ้นลงในอากาศนั้นบ่อยมาก ซึ่งลักษณะการเล่นแบบนี้นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แล้วยังส่งผลกระทบรุนแรงต่อสมองของเด็กทารกอีกด้วย  สำหรับพ่อแม่บางท่านอารู้เท่าไม่ถึงการณ์ เล่นกับลูกโดยไม่ได้ระมัดระวังตรงส่วนนี้ก็อาจจะทำให้เด็กนั้นมีพัฒนาการช้า สติปัญญาอ่อน บางรายรุนแรงถึงขั้นเกิดเลือดคั่งในสมองและเสียชีวิตได้เลยก็มี ดังนั้น ข้อมูลที่เรานำมาฝากให้กับผู้ปกครองในวันนี้จะถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก ช่วยเป็นแนวทางส่งเสริมให้คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงลูกได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมมากยิ่งขึ้นลดโอกาสการเกิดภาวะทางสมองของเด็กลงได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง 

Facebook
Twitter