เคล็ดลับในการเลือกเนอสเซอรี่ นั้นถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านกำลังเป็นกังวลใจ เพราะเมื่อลูกโตขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งแล้วจำเป็นอย่างมากที่จะต้องได้รับการศึกษาและมีสังคมใหม่ที่กว้างขึ้น เพื่อที่จะสามารถปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์รอบข้างได้ดียิ่งขึ้น แล้วจะเลือกเนอสเซอรี่อย่างไรให้ปลอดภัยและเหมาะสมที่สุดกับลูกเรานั้นวันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกเนอสเซอรี่ให้กับลูกมีอะไรบ้างไปติดตามกันเลย
1. ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม
ให้คุณพ่อคุณแม่พิจารณาจากรายรับรายจ่ายภายในครอบครัว ว่าเนอสเซอรี่ที่คุณชื่นชอบนั้นมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมหรือไม่ ไม่จำเป็นเลยว่าจะต้องเป็นโรงเรียนที่มีราคาแพง แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาคือบุคลากรภายในโรงเรียนนั้นมีประสิทธิภาพสามารถดูแลความปลอดภัย และอบรมสั่งสอนลูกของเราได้เป็นอย่างดีหรือไม่ อย่าลืมว่าวัยเด็กนั้นมีความสำคัญกับลูกเป็นอย่างมาก การเลือกโรงเรียนก็เหมือนกับการมอบสังคมใหม่ให้กับลูก ถ้าสังคมเริ่มต้นดี ก็มีส่วนช่วยให้ลูกเติบโตมาอย่างมีคุณภาพนั่นเอง
2. สถานที่ตั้งอยู่ใกล้บ้าน
พ่อแม่หลายคนมีความคาดหวังอย่างให้ลูกได้เรียนโรงเรียนที่ดีที่สุด แต่ลืมพิจารณาไปว่าสถานที่ตั้งนั้นอยู่ไกลบ้านมาก ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของลูกอย่างแน่ ลูกจะต้องตื่นเช้าแล้วเตรียมตัวไปโรงเรียนเร็วขึ้นกว่าปกติ ต้องเสียพลังในการเดินทาง อาจทำให้เขาเหนื่อยล้าเกินไป จนอาจกลายเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เขาไม่อยากไปโรงเรียนนั่นเอง ดังนั้นทางที่ดีควรเลือกสถานที่ที่เดินทางสะดวก รวดเร็วและมีคุณภาพ
3. เนอสเซอรี่ที่ดีจะต้องมีความปลอดภัย
เชื่อว่าถ้าคุณแม่ไปดูสถานที่จริงจะสามารถสัมผัสได้ว่าโรงเรียนนี้มีความปลอดภัยและเหมาะสมกับลูกเราหรือไม่ โดยคุณสามารถเดินสำรวจดูบริเวณรอบๆโรงเรียนก่อนได้ ไม่ว่าจะเป็นสนามหญ้ารอบโรงเรียน บ่อน้ำ สนามเด็กเล่น มีอุปกรณ์เหมาะสมกับช่วงวัยหรือไม่ อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ระบบกล้องวงจรปิด ทางหนีไฟ รวมไปถึงอุปกรณ์ภายในห้องเรียนที่ต้องมีความพร้อมและปลอดภัยต่อการเรียนของลูก
4. มีจำนวนบุคลากรที่เหมาะสม
ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว บุคลากรที่เหมาะสมนี้จะช่วยสอดส่องดูแลความปลอดภัย ให้กับเด็กๆได้อย่างทั่วถึง โดยทั่วไปจะมีพี่เลี้ยงประมาณ 2-3 คน โดยมีครูประจำชั้น 1 คนที่คอยให้คำปรึกษา และดูแลเด็กๆอยู่ตลอดเวลา ลักษณะนิสัยพื้นฐานของบุคลากรจะต้องมีความใจเย็นและรักเด็ก รวมไปถึงมีทักษะในการพูดคุยกับเด็กได้เป็นอย่างดี ถ้าหากผ่านการอบรมวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจ แล้วเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการประกอบการตัดสินใจได้มากยิ่งขึ้น
5. มีการดูแลสุขอนามัยที่ดี
เด็กในวัยเล็กๆนี้ยังไม่สามารถช่วยเหลือหรือดูแลตัวเองได้ดีเท่าที่ควร ดังนั้นจำเป็นอย่างมากที่ทางโรงเรียนจะต้องมีวิธีการดูแลความสะอาดอย่างจริงจัง มีการจัดเตรียมอาหารกลางวันให้เด็กด้วยกรรมวิธีที่สะอาดปลอดภัย มีมาตรการแยกเด็กป่วยไม่ให้ปะปนกัน มีห้องน้ำที่ถูกสุขลักษณะ รวมไปถึงมีการกำชับให้เด็กล้างมือ ทำความสะอาดอยู่บ่อยๆ เป็นต้น
6. มีหลักสูตรและมีกิจกรรมที่น่าสนใจ
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าจุดประสงค์หลักที่เรานำลูกมาเข้าเนอสเซอรี่นั้นก็เพื่อให้เขามีสังคมที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น ไม่ได้มีความคาดหวังในด้านวิชาการมากเท่าด้านมนุษยสัมพันธ์และการเข้าสังคมที่ดี โดยในแต่ละวันนั้นโรงเรียนจะต้องมีกิจกรรมให้เด็กๆได้ร่วมสนุก กระตุ้นให้เด็กมีความกล้าแสดงออก มีอิสระทางความคิดมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เรื่องของการอยู่ร่วมกับผู้อื่น สอนให้รู้จักช่วยเหลือตัวเองได้ เป็นต้น
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ เคล็ดลับในการเลือกเนอสเซอรี่ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันและมีเนื้อสัตว์หรือโรงเรียนปฐมวัยเปิดให้บริการมากมาย เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่จะต้องมีคำถามอยู่ในหัวเต็มไปหมดว่าโรงเรียนหรือเนอสเซอรี่ที่คุณพ่อคุณแม่เล็งไว้นั้นมีคุณสมบัติที่ดีและเหมาะสมสำหรับลูกหรือไม่ ซึ่งผลลัพธ์ดังกล่าวข้างต้นที่เรานำมาฝากกันในวันนี้จะช่วยประกอบการตัดสินใจให้กับคุณแม่ให้เลือกได้ง่ายยิ่งขึ้น หากพิจารณาแล้วว่ามีคุณสมบัติที่ดีครบถ้วน ก็ให้คุณแม่มั่นใจและปล่อยวางว่าลูกน้อยจะมีพัฒนาการที่เติบโตขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ไปกับโรงเรียนและบุคลากรที่มีคุรภาพที่เราตั้งใจเลือกให้ลูกนั่นเอง