วิธีสร้างความแข็งแกร่งให้กับลูก สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือการเห็นลูกเติบโตไปอย่างแข็งแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งเราทุกคนไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าเราจะสามารถอยู่ดูแลเขาได้นานมากแค่ไหน ดังนั้นการส่งเสริมให้ลูกมีความแข็งแกร่ง จึงเป็นเกราะป้องกันและจะช่วยให้เขาสามารถดำเนินชีวิตในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเพื่อให้เล็งเห็นความสำคัญถึง การสร้างเกราะป้องกันให้กับลูก เราจึงรวบรวมวิธีการสร้างความแข็งแกร่งที่สามารถนำไปปฏิบัติแล้วเห็นผลจริงมาฝากกัน จะมีวิธีใดบ้างนั้นไปติดตามกันเลย
1. ให้เวลาคุณภาพกับลูก
อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าช่วงเวลาทองของพ่อแม่ คือช่วง 1-3 ปี ที่คุณควรให้เวลากับลูกให้ได้มากที่สุด ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากที่สุดในชีวิตแล้ว การให้เวลาคุณภาพกับลูกนั้นจะเป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงและแข็งแรง ให้ลูกมีภูมิคุ้มกันทั้งทางร่างกายและจิตใจที่ดี โดยการหากิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกตามช่วงวัย เช่น การอ่านนิทาน การเล่นเสริมทักษะต่างๆ ช่วงเวลาเหล่านี้ จะช่วยสร้างเส้นใยในสมองให้กับลูกได้แบบก้าวกระโดด หากรากฐานมั่นคง ในอนาคตลูกก็จะมีความแข็งแกร่งทั้งทางร่างกายและจิตใจได้เป็นอย่างดี
2. หากมีโอกาสให้เลี้ยงลูกด้วยตัวเอง
ไม่มีใครจะสามารถเลี้ยงดูลูกเราได้ดีที่สุดมากเท่ากับตัวเราเองแล้ว ข้อนี้อาจจะยากสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีงานประจำ แต่ประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยตัวเองนั้น จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เด็กที่เลี้ยงดูโดยพ่อแม่จะเติบโตมาอย่างชาญฉลาด และมีพัฒนาการที่ดีสมวัย เนื่องจากเด็กนั้นงั้นจะเรียนรู้และซึมซับพฤติกรรมจากคนใกล้ชิด ถ้าหากคุณเป็นแบบอย่างที่ดี ก็จะช่วยส่งเสริมให้ลูกเติบโตมาอย่างแข็งแกร่ง ฉลาดเรียนรู้สมวัยแน่นอน
3. ชื่นชมลูกเสมอแม้สิ่งเล็กน้อยก็ตาม
คำพูดของพ่อแม่นั้นมีผลต่อพัฒนาการของลูกโดยตรง ดังนั้นถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ จะต้องหมั่นชื่นชมอยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้จะเป็นกำลังใจให้ลูกเติบโตได้อย่างแข็งแรง มีความมั่นใจในตัวเองและมีแรงผลักดันที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้การแสดงความรัก เช่น การกอด การหอมลูกอยู่เป็นประจำ ก็จะช่วยส่งเสริมให้ลูกมีจิตใจที่แข็งแกร่งและมีพื้นฐานความรัก จะทำให้ลูกมั่นใจ และกล้าที่จะเผชิญสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าเขาจะเจออะไร หันหลังกลับมาจากมีครอบครัวที่อบอุ่นรอเขาอยู่เสมอนั่นเอง
4. หากทำผิดพลาดต้องยอมรับและรู้จักขอโทษ
จะเป็นคนที่แข็งแกร่งได้นั้นจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองกระทำด้วย พยายามส่งเสริมให้ลูก เรียนรู้ถึงข้อผิดพลาด เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องยอมรับและทำความเข้าใจ รู้จักกล่าวคำขอโทษเมื่อเป็นคนกระทำผิด พฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้ลูกมีจิตใจที่แข็งแกร่ง และมีความคิด ที่เป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
5. วินัยคือสิ่งที่ไม่ควรละเลย
นี่ถือเป็นไม้เด็ดเคล็ดลับในการเลี้ยงลูกเลย เชื่อว่าในแต่ละวันนั้นพ่อแม่จะต้องเจอกับสถานการณ์ที่หลากหลาย การเลี้ยงลูกหนึ่งคนไม่มีอะไรที่ราบรื่นอย่างแน่นอน ดังนั้นคุณควรตั้งกฎที่สำคัญในบ้าน 3 กฎแรกที่เด็กจะต้องมีคือ ไม่ทำร้ายตัวเอง ไม่ทำร้ายผู้อื่นและไม่ทำลายข้าวของ เป็นกฎเหล็กที่สามารถนำมาใช้ส่งเสริมพัฒนาการของลูกได้อย่างยอดเยี่ยม นอกเหนือจากนี้คุณแม่สามารถปล่อยให้ลูกเล่นได้อย่างอิสระ เพราะสถานการณ์ต่างๆจะช่วยหล่อหลอมให้ลูกนั้นแข็งแกร่งขึ้นได้เอง
6. พ่อแม่จะต้องใจดีแต่ไม่ใจอ่อน
การตามใจลูกมากเกินไปนั้นมักจะทำให้ลูกกลายเป็นเด็กที่เอาแต่ใจได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จะต้องฝึกวินัยให้กับลูก อะไรที่เป็นกฎเหล็ก จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และไม่ใจอ่อนอย่างเด็ดขาด เช่น การแปรงฟัน จะต้องทำเป็นกิจวัตรประจำวัน ถึงแม้ว่าลูกจะร้องไห้งอแงแค่ไหนก็ตาม ห้ามใจอ่อนอย่างเด็ดขาดเพราะไม่อย่างนั้นจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและในเรื่องโภชนาการตามมาภายหลังได้ การทานข้าว จะต้องนั่งทานให้เป็นระเบียบ ไม่ทานไปเล่นไป เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุทำให้อาหารติดคอได้ ดังนั้น การที่คุณไม่ใจอ่อนในเรื่องที่สำคัญเหล่านี้ จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งเป็นเกราะป้องกันให้กับลูกในอนาคตได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ วิธีสร้างความแข็งแกร่งให้กับลูก ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ หล่อหลอมให้ลูกเติบโตมาอย่างแข็งแกร่ง ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทักษะเหล่านี้จะเป็นภูมิคุ้มกันให้กับลูกดำเนินชีวิตในอนาคตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น จะเห็นได้ว่าความรักและเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรมีให้กับลูกอย่างสม่ำเสมอ รากฐานความรักที่มั่นคงจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกรู้สึกปลอดภัย มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น กล้าที่จะเผชิญสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ ส่งผลให้ลูกเติบโตมาเป็นเด็กที่แข็งแกร่งและมีความสุขอย่างแน่นอน
