การเลี้ยงลูกตามแบบฉบับคุณหมอ ถือเป็นแนวทางที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนยึดถือและปฏิบัติตามกัน เพื่อหวังให้ลูกนั้นมีพัฒนาการที่ดีสมวัย ทั้งในเรื่องของ IQ และ EQ โดยการเลี้ยงลูกตามแบบฉบับคุณหมอนั้นจะเน้นให้เด็กเป็นศูนย์กลาง เน้นความสำคัญของบทบาทครอบครัวที่จะต้องมีเวลาคุณภาพให้กับลูก เพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการในช่วงปฐมวัยตั้งแต่ 0 – 6 ขวบปีแรก ให้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ซึ่งถือเป็นวัยที่จะช่วยสร้างรากฐานการเรียนรู้ที่สำคัญตลอดชีวิต สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่เพิ่งมีลูกคนแรก หรืออยากจะเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จและมีความสุข สามารถติดตามการเลี้ยงลูกในแบบฉบับของคุณหมอกันได้เลย
1. ให้ความสำคัญและเข้าใจความต้องการของลูก
เน้นให้ลูกเป็นศูนย์กลาง เข้าใจในธรรมชาติของเด็ก ว่าแต่ละคนนั้นมีลักษณะนิสัยและความต้องการแตกต่างกัน ไม่จำเป็นที่ลูกเราจะต้องเหมือนกับเด็กคนอื่น ควรปล่อยให้ลูกเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ โดยที่ไม่กดดันและไม่คาดหวังในตัวเด็กมากจนเกินไป เมื่อมองเห็นข้อดี ก็ให้สนับสนุนส่งเสริมไปให้สุด แต่เมื่อมองเห็นข้อเสีย ให้ค่อยๆปรับปรุงแก้ไข พยายามพัฒนาจุดอ่อน ไปพร้อมๆกับลูกแทนการตำหนิหรือดุด่ว่ากล่าว
2. ส่งเสริมการเล่นตามช่วงวัย
เด็กเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ ไม่จำเป็นต้องจริงจังกับวิชาการในห้องเรียนมากจนเกินไป การปล่อยให้ลูกได้เล่นเป็นธรรมชาติ จะทำให้เขาเรียนรู้และรู้จักปรับตัวได้มากยิ่งขึ้น การเล่นถือเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของเด็ก ยิ่งเล่นมากยิ่งฉลาดมาก โดยคุณพ่อคุณแม่อาจจะสร้างกติกาเล็กๆน้อยๆกับลูกเพื่อเป็นการฝึกวินัยไปในตัว เช่น เล่นในพื้นที่ปลอดภัย เล่นเป็นเวลา เล่นเสร็จแล้วต้องเก็บของเล่นด้วย หรืออาจมีข้อแลกเปลี่ยน จะต้องทำงานบ้านเพื่อแลกกับการได้ออกไปเล่น สิ่งเหล่านี้นอกจากจะช่วยฝึกวินัยแล้วยังช่วยให้เด็กรู้จักวางแผนได้อย่างเป็นระบบมากขึ้นอีกด้วย
3. สร้างช่วงเวลาคุณภาพให้กับลูก
เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนอาจจะเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานหนักกันมาตลอดทั้งวันแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดรอคุณอยู่ที่บ้าน ดังนั้นคุณควรจัดการเวลาแม้จะเป็นช่วงเวลาระยะเวลาสั้นๆเพียงครึ่งชั่วโมง ก็สามารถสร้างเวลาคุณภาพให้กับลูกได้ หากทำเป็นประจำสม่ำเสมอสามารถที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการลูกได้อย่างรอบด้าน อีกทั้งยังช่วยสร้างสัมพันธ์ที่ดีกันภายในครอบครัวอีกด้วย เช่น การอ่านนิทานด้วยกันก่อนนอน ช่วงเวลาสอนลูกทำการบ้าน ช่วงเวลาเล่นบทบาทสมมุติกับลูก สิ่งเหล่านี้นอกจากจะดีต่อพัฒนาการทางด้านร่างกายแล้ว ยังช่วยซ่อมแซมพัฒนาการทางด้านจิตใจให้กับลูกได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
4. ไม่หยุดที่จะแสดงความรักต่อหน้าลูก
เมื่อลูกโตมาผู้ปกครองหลายบ้านอาจจะห่างเหินจากการแสดงความรักต่อกัน ไม่กอด ไม่หอม ไม่บอกรักเหมือนเคย แต่คุณทราบหรือไม่ว่า ความรักภายในครอบครัว เป็นสิ่งที่เด็กอยากได้มากที่สุด ถ้าคุณไม่พูด เด็กเขาไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเขามีความสำคัญกับคุณมากแค่ไหน ดังนั้นเพื่อสร้างความมั่นคงทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจให้กับลูกนั้น ให้คุณพ่อคุณแม่มันแสดงความรักเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุน ชื่นชมลูกเมื่อลูกทำในสิ่งที่ถูกต้อง ให้กำลังใจในยามที่เขาผิดหวัง บอกรักเขาสม่ำเสมอในทุกวัน ให้รางวัลเมื่อเขาทำดี เป็นต้น สิ่งเหล่านี้นอกจากจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัวแล้ว ยังช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านจิตใจให้ลูกมีความแข็งแกร่งพร้อมที่จะเผชิญสู่โลกกว้างได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
5. ดูแลด้านโภชนาการอย่างเต็มที่
คุณหมอทางด้านกุมารเวช เน้นในเรื่องของโภชนาการในช่วงวัยเด็กเพราะสมองนั้นพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว นอกจากจะเล่นให้เต็มที่แล้ว ยังต้องเสริมสร้างด้วยอาหารที่มีประโยชน์ ต่อสมองและร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน จะทำให้ลูกเติบโตสมวัย ไม่เจ็บป่วยง่าย อีกทั้งยังมีสติปัญญาที่เฉลียวฉลาด มีต้นทุนการเรียนรู้ที่ดีกว่าเด็กทั่วไปอย่างแน่นอน ดังนั้นแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังพฤติกรรมการกินที่ถูกต้อง ให้ลูกตักอาหารเองเมื่อถึงวัยที่พร้อม และคอยเฝ้าสังเกตวัดส่วนสูงชั่งน้ำหนักของลูกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามการเจริญเติบโตให้เหมาะสมตามช่วงวัยนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ การเลี้ยงลูกตามแบบฉบับคุณหมอ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ จะเห็นได้ว่า สถาบันครอบครัวนั้นเป็นสถาบันที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรหาเวลาว่างอยู่กับลูกให้ได้มากที่สุด เน้นในเรื่องของการเล่น การกินและการแสดงความรักให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ลูกในช่วงปฐมวัยก็จะมีพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์แข็งแรง เป็นต้นทุนที่สนับสนุนให้เขาเติบโตมาอย่างมีคุณภาพในอนาคตนั่นเอง