เคล็ดลับ ปรับตัวเข้าหาลูกที่มีโลกส่วนตัวสูง ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลายครอบครัวกำลังเป็นกังวลอยู่ หลายคนคงเคยรู้จักกับลักษณะนิสัยของ extrovert และ introvert กันมาบ้างแล้วซึ่งเป็นลักษณะนิสัยที่แสดงออกมาทางบุคลิกภาพของลูก สามารถอธิบายให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น Extrovert คือบุคลิกภาพของเด็กที่ร่าเริง แจ่มใส กล้าแสดงออก และสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้ดีตรงกันข้ามกับ introvert ที่จะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าลูกของคุณมีโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบเข้าสังคมมีความสุขมากกว่าถ้าได้อยู่กับตัวเอง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเข้าสังคมของลูกวันนี้เราจะมีวิธีการปรับตัวเข้าหาลูกที่มีโลกส่วนตัวสูง จะมีวิธีปฏิบัติอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย
1. เข้าใจในตัวตนของลูก
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าคุณคือโลกทั้งใบของลูก ดังนั้น การที่พ่อแม่มีความเคารพและเข้าใจในความเป็นตัวตนของลูกนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็น จะช่วยให้เด็กที่มีโลกส่วนตัวสูงนั้นยอมเปิดใจและพูดคุยกับคนที่สนิทอย่างคุณพ่อคุณแม่ เมื่อได้พูดคุยแล้วเขาจะรู้สึกสบายใจมีความกล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้น โดยที่คุณสามารถที่จะฝึกทักษะการเข้าสังคมให้กับลูกได้ค่อยๆปรับตัว จะทำให้เขาไม่รู้สึกอึดอัดและกดดันในตัวเองมากจนเกินไป ถือเป็นเรื่องที่ดีในอนาคตที่เขาจะกล้าแสดงออก และกล้าที่จะเข้าสังคมได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
2. คอยสังเกตพฤติกรรมของลูก
โดยเฉพาะสีหน้าและแววตาจะสามารถบอกความรู้สึกของลูกได้ดีที่สุด เพราะเด็กที่มีโลกส่วนตัวสูงนั้นมักจะไม่ค่อยกล้าเปิดใจหรือพูดคุยอยากเปิดเผย ดังนั้นการที่คุณมาสังเกตพฤติกรรมของลูกจะช่วยอธิบายความรู้สึกได้ดีมากขึ้น หรือคุณอาจจะสังเกตภาษากายควบคู่ไปด้วยได้ เช่น ลูกชอบปลีกตัวไปอยู่คนเดียวมากขึ้นกว่าปกติหรือไม่ มีความกังวลในเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ วิธีนี้จะช่วยให้คุณแก้ปัญหาได้เร็วขึ้นและรู้เท่าทันอารมณ์ของลูกได้อย่างทันท่วงที
3. เลือกช่วงเวลาพูดที่เหมาะสม
โดยธรรมชาติของเด็กที่เป็น introvert นั้น มักจะชอบอยู่คนเดียวและมีความสุขกับการที่ได้อยู่ในบ้านมากกว่าการออกสังคม เพราะพวกเขาจะรู้สึกว่าการออกไปเจอผู้คนมากมายจะต้อง ใช้พลังงานเยอะ เกิดความเหนื่อยล้า และไม่มีความสุข ดังนั้นให้คุณหาจังหวะที่เหมาะสมในการพูดคุย เช่นไม่ควรชวนลูกคุยหลังจากที่กลับมาจากโรงเรียน เพราะในช่วงเวลานั้นเขาอาจจะต้องการความสงบและอยากอยู่กับตัวเองมากขึ้นหลังจากที่ได้เจอผู้คนมากมายทั้งวันแล้ว แนะนำให้คุณหาช่วงเวลาหลังจากที่ลูกได้ใช้เวลากับตัวเองไปสักพักแล้ว จะช่วยให้เขารู้สึกมีความสุขมากยิ่งขึ้น และไม่กดดันในตัวเองมากจนเกินไป
4. การชวนลูกพูดคุยอยู่เสมอก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
จะช่วยให้เขารู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากยิ่งขึ้น เพราะอย่างที่บอกว่าเด็กที่มีโลกส่วนตัวสูงนั้นมักจะไม่ค่อยไว้ใจใครจริงๆ ดังนั้นการหาเรื่องที่ลูกสนใจจะเป็นการเปิดประเด็นและยอมให้เขาเปิดใจพูดคุยกับเราได้อย่างไม่มีกำแพงกั้น ถ้าหากลูกเป็นคนที่เงียบถึงคุณจะต้องเป็นผู้ที่เริ่มบทสนทนาด้วยหัวข้อง่ายๆ ไม่ต้องใช้ความคิดเยอะ จากการสำรวจและพบว่าเด็กที่มีโลกส่วนตัวสูงมักจะเปิดใจและยอมพูดคุยในหัวข้อที่ตนเองสนใจมากกว่า ดังนั้นถ้าหากคุณสังเกตพฤติกรรมของลูกแล้วรู้ว่าลูกชอบอะไรก็ให้เปิดหัวข้อในเรื่องนั้น จะช่วยทำลายกำแพงที่สูงของลูกได้ง่ายยิ่งขึ้น
5. ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูก
เด็กที่มีโลกส่วนตัวสูงมากจะไม่ค่อยชอบเข้าสังคมและมักจะขาดความมั่นใจในตัวเองดังนั้นคุณจะต้องทราบก่อนว่าลูกขาดความมั่นใจในส่วนไหน จึงจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างถูกจุด การที่เขามีพื้นที่ส่วนตัวในความคิดก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะผิดในสังคม ดังนั้นเราจะต้องเคารพในพื้นที่ส่วนตัวของลูกด้วย ในขณะเดียวกันก็พยายามสร้างความมั่นใจให้กับลูกจะทำให้เขารู้สึกมีความมั่นใจและกล้าที่จะเข้าสังคมได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ เคล็ดลับ ปรับตัวเข้าหาลูกที่มีโลกส่วนตัวสูง ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้จะเห็นได้ว่าลักษณะนิสัยของเด็กที่มีโลกส่วนตัวสูงนั้นก็เป็นลักษณะเฉพาะที่ไม่ได้มีความผิดปกติแต่อย่างใด แต่อาจจะส่งผลกระทบ ต่อพฤติกรรม บางอย่างเช่น พลาดโอกาสการเข้าสังคมหรือขาดความมั่นใจในตัวเอง ดังนั้นถ้าหากคุณสังเกตแล้วว่าลูกมีโลกส่วนตัวสูงก็ให้พยายามพูดคุยกับเขาให้มากยิ่งขึ้น สร้างความมั่นใจให้กับเขา ให้เวลาลูกได้ปรับตัว ไม่ทำให้ลูกรู้สึกกดดันและแปลกประหลาด เคล็ดลับที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งข้อคิดดีๆที่จะช่วยปรับทัศนคติและช่วยให้ลูกกล้าเข้าสังคมได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง บาคาร่าออนไลน์