5 นิสัยของผู้ปกครอง ที่ทำร้ายลูกทางอ้อม ทำให้ลูกมีภาวะ EF ต่ำกว่าปกติ

นิสัยของพ่อแม่ที่ทำให้ลูกEF ต่ำ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคสมัยปัจจุบันนี้ การเลี้ยงลูกนั้นค่อนข้างยากและมีปัจจัยหลายๆอย่างเข้ามามีอิทธิพลส่งผลต่อพฤติกรรมของลูกมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องของการฝึกทักษะทางความคิด หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ Excel function (EF) เป็นการเลี้ยงลูกที่ส่งเสริมให้เขามีกระบวนการทางความคิด ความรู้สึก และการกระทำ ที่เหมาะสมตามช่วงวัย ซึ่งทักษะนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวันของลูก เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของทักษะนี้ เราจึงรวบรวมนิสัยของพ่อแม่ที่จะทำให้ลูก EF ต่ำ ส่งผลลดศักยภาพในตัวลูกน้อยลง มีอะไรบ้างไปดูกัน

1. พ่อแม่ใช้อารมณ์เป็นหลัก ขี้โมโห หงุดหงิดง่าย 

1. พ่อแม่ใช้อารมณ์เป็นหลัก ขี้โมโห หงุดหงิดง่าย 

การที่ลูกจะเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่เต็มไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด ฉุนเฉียว พูดจากระโชกโฮกฮากรุนแรงไม่มีเหตุผล พ่อแม่รู้สึกขี้โมโหง่าย จะเป็นพิษต่อลูกโดยตรง ทำให้ทักษะทางด้าน EF ของลูกลดต่ำลงไปมากเลยทีเดียว จะสังเกตได้ง่ายๆเลยว่าพ่อแม่ที่มีอารมณ์เชิงลบ ส่งผลทำให้ลูกน้อยมีอารมณ์ร้าย และขี้โมโหตามไปด้วย เพราะลูกได้เกิดการสะสมความเครียด สะสมพฤติกรรมต่างๆของคนรอบตัวไว้ จนถูกหล่อหลอมและเกิดเป็นตัวตนของเขานั่นเอง 

2. พ่อแม่ขี้กลัว 

2. พ่อแม่ขี้กลัว 

เข้าใจว่าพ่อแม่บางคนนั้นเป็นห่วงลูกในทุกย่างก้าว จนเกิดความหวาดระแวงมากจนเกินไป ทำให้เป็นการปิดกั้นโอกาสที่ลูกจะได้ทดลองทำอะไรใหม่ๆ หรือในขณะที่ลูกเศร้าเสียใจคุณรีบเข้าไปปลอบโดยที่ไม่ปล่อยให้ลูกต้องเผชิญกับความผิดหวังหรือเสียใจเลย จะทำให้เขาไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ ทำให้ลูกขาดทักษะการแก้ไขปัญหาและ ไม่มีความยืดหยุ่นทางความคิดเหมือนพ่อแม่ ซึ่งจะส่งผลเสียในอนาคตทำให้เขาไม่สามารถปรับตัวตามสถานการณ์ต่างๆได้ และที่ยิ่งร้ายไปกว่านั้น คือเขาไม่สามารถที่จะระบุหรือแก้ไขอุปสรรคต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

3. พ่อแม่ชอบตามใจลูก 

3. พ่อแม่ชอบตามใจลูก 

เป็นอีกลักษณะนิสัยที่ทำให้ลูก EF ต่ำเช่นกัน พ่อแม่ที่คอยพยายามหยิบยื่นทุกสิ่งให้กับลูก ตามใจลูกโดยไร้ขอบเขต คุณทราบหรือไม่ว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นการทำร้ายลูกทางอ้อม ทำให้ในอนาคตเขากลายเป็นเด็กที่เอาแต่ใจได้ รวมไปถึงขาดทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น เขาจะไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เพราะเห็นความต้องการของตัวเองเป็นหลัก การแนะนำว่าให้ผู้ปกครองลดการหยิบยื่นทุกสิ่งให้กับลูกลงบ้าง ให้เขาได้ลองพยายามช่วยตัวเอง หรือแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง จะทำให้เขามีกระบวนการทางความคิดได้มากยิ่งขึ้น

4. พ่อแม่ที่เห็นงานสำคัญกว่าลูก 

4. พ่อแม่ที่เห็นงานสำคัญกว่าลูก 

อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าในยุคปัจจุบันนี้การทำงานนั้นก็มีความสำคัญไม่น้อยเลยที แต่คุณจะต้องเข้าใจในเรื่องของ  work Balance ให้การทำงานเกิดความสมดุลกับการใช้ชีวิต แบ่งเวลาให้ลูกอย่างเหมาะสม หากิจกรรมทำร่วมกับลูกบ้าง เพราะของเล่นชนิดใดก็ไม่สำคัญเท่ากับพ่อแม่ เพราะคุณคือตัวกระตุ้นที่จะช่วยฝึกฝนความคิดและทักษะการเข้าสังคมให้กับลูกได้เป็นอย่างดี กิจกรรมแนะนำที่สามารถทำร่วมกับลูกได้ เช่น การเล่นเกมใบ้คำ การช่วยทำงานบ้าน เป็นต้น

5. พ่อแม่ที่ไม่รับฟังความคิดเห็นลูก 

5. พ่อแม่ที่ไม่รับฟังความคิดเห็นลูก 

เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมากในหลายๆครอบครัว คุณทราบหรือไม่ว่า การเปิดให้ลูกแสดงความคิดเห็นนั้นจะเป็นการส่งเสริมกระบวนทางความคิดให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น ถ้าหากคุณเปิดช่องว่างให้ลูกได้อธิบายความคิดเห็นของตัวเองจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและช่วยให้เขามีความคิดวิเคราะห์และวางแผนได้มากยิ่งขึ้น และช่วยให้เขามีความคิดวิเคราะห์และวางแผนได้มากยิ่งขึ้นดังนั้นการรับฟังลูก ดังนั้น การรับฟังลูกจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมาก 

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ นิสัยของพ่อแม่ที่ทำให้ลูก EF ต่ำที่เรานำมาฝากกันในวันนี้จะเห็นได้ว่าทักษะนี้มีความสำคัญสำหรับการดำเนินชีวิตประจำวันของลูกเป็นอย่างมาก เช่น การควบคุมอารมณ์ การวางแผนทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน หรือเมื่อลูกโตขึ้นทักษะนี้จะมีผลต่อการประสบความสำเร็จในเรื่องของการเรียน และการทำงาน ตลอดจนสามารถนำไปพัฒนาใช้ในชีวิตครอบครัวได้อีกด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทักษะที่สำคัญมากที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว ถ้าหากพูดอยากให้ลูกมี EF ดี เริ่มง่ายๆที่ตัวคุณ สล็อตออนไลน์

Facebook
Twitter