5 ข้อเสียของลูกติดหน้าจอมากเกินไป เสี่ยงต่อการเป็นเด็กออทิสติกเทียม

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคปัจจุบันนี้เทคโนโลยีและดิจิตอลได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเด็กมากยิ่งขึ้น  ถ้าหากว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่มีการควบคุมหรือดูแลเป็นอย่างดี ภัยร้ายที่มาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ มีมากมาย หากลูกติดหน้าจอมากเกินไป จะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการและพฤติกรรมของลูกอย่างแน่นอน ซึ่งเด็กแต่ละคนนั้นจะมีลักษณะนิสัยพื้นฐานที่แตกต่างกันออกไป ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ละเลยและปล่อยให้เด็กอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือนานจนเกินไป นอกจากจะทำให้เป็นเด็กก้าวร้าวแล้ว ยังทำให้การเรียนรู้ตกต่ำ และพัฒนาการทางสมองที่แตกต่างจากเด็กทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด โดยจากงานวิจัยแล้วพบว่าเด็กอายุ 3-5 ปี ส่วนมากที่ใช้เวลาไปกับโทรศัพท์มือถือ จะส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและสมองทำให้สารเคมีที่หลั่งออกมาโดยมีบทบาทต่อพัฒนาการทางภาษาและการเรียนรู้นั้นน้อยกว่าเด็กทั่วไป ดังนั้นวันนี้เราจึงรวบรวม ข้อเสียสำหรับเด็กที่ติดหน้าจอโทรศัพท์มือถือมากจนเกินไป มาให้คุณพ่อคุณแม่ได้ตระหนักถึงโทษที่จะเกิดกับลูกอย่างร้ายแรง จะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันเลย

5 ข้อเสียของลูกติดหน้าจอมากเกินไป เสี่ยงต่อการเป็นเด็กออทิสติกเทียม1

กลายเป็นเด็กสมาธิสั้น

หากลูกอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือนานๆ ภาพและเสียงต่างๆที่ออกมาจากโทรศัพท์มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว สมองและสายตาของลูกไม่สามารถเรียนรู้และปรับได้ทัน จนทำให้ลูกนั้นเสียสมาธิ ส่งผลกระทบให้ลูกนั้นไม่สามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งใดได้นาน กลายเป็นเด็กสมาธิสั้น ขาดการควบคุมอารมณ์ของตนเอง ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของลูกในอนาคตอย่างมากเลยทีเดียว ความสามารถในการเรียนรู้ของลูกจะลดลงเมื่อเทียบกับเด็กทั่วไป อาจทำให้เขาเรียนไม่ทันเพื่อน หรือสมองคิดช้ากว่าเพื่อนก็เป็นได้ ดังนั้นทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานเกินไป เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูกในอนาคตนั่นเอง

5 ข้อเสียของลูกติดหน้าจอมากเกินไป เสี่ยงต่อการเป็นเด็กออทิสติกเทียม2

เสี่ยงต่อการเป็นเด็กออทิสติกเทียม

อีกหนึ่งปัญหาที่น่ากังวลใจซึ่งสามารถควบคุมได้ด้วยตัวคุณพ่อคุณแม่เอง หากลูกติดหน้าจอโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน แน่นอนว่าพัฒนาการทางสมองและสติปัญญาของลูก จะช้ากว่าเด็กทั่วไป ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่แก้ปัญหาการเลี้ยงลูก ด้วยการใช้โทรศัพท์มือถือในการหลอกล่อ จะทำให้ลูกนั้นติดโทรศัพท์มือถือได้ง่ายยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าจะทำให้ลูกอยู่นิ่งและสงบลงได้ชั่วขณะ แต่นั่นคือการยัดเยียดให้ลูกได้รับการสื่อสารทางเดียว โดยที่ลูกไม่มีโอกาสได้ตอบโต้เลย ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงทางด้านภาษา และการเข้าสังคม โดยอาการของเด็กออทิสติกเทียม สังเกตง่ายๆว่าลูกจะเฉยชากับสิ่งที่อยู่รอบข้างอย่างมาก อารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวร้องไห้แบบไร้เหตุผล หรือไม่สนใจออมกอดของพ่อแม่ หมกมุ่นอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่ตลอดเวลา นั่นถือเป็นสัญญาณเตือนว่าลูกของคุณต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดแล้วล่ะ

5 ข้อเสียของลูกติดหน้าจอมากเกินไป เสี่ยงต่อการเป็นเด็กออทิสติกเทียม3

เสี่ยงต่อปลายประสาทอักเสบและสายตาสั้น

สังเกตได้จากเวลาที่คุณใช้สายตาเพ่งหน้าจอคอมหรือหน้าจอโทรศัพท์มือถือในการดวงตาจะล้า มักจะมีปัญหาทางด้านสายตา เด็กๆก็เช่นกัน ถ้าหากจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ในอนาคตข้างหน้าลูกจะมีปัญหาทางด้านสายตาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นสายตาเอียง สายตาสั้น หรือถ้าหากใช้เวลาอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือตลอดเวลาอาจทำให้กลายเป็นโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้เลย นอกจากนี้ถ้าหากลูกพักผ่อนไม่เพียงพอก็อาจจะลามไปถึงปลายประสาทอักเสบได้ ซึ่งล้วนแล้วแต่ผลต่อพัฒนาการของลูกทั้งนั้น 

5 ข้อเสียของลูกติดหน้าจอมากเกินไป เสี่ยงต่อการเป็นเด็กออทิสติกเทียม4

มีปัญหาในการเขียนหนังสือ

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในปัจจุบันนั้นอุปกรณ์ไอทีมีระบบทัชสกรีน ทำให้ส่วนใหญ่เด็กจะใช้นิ้วมือ ในการปัดหน้าจอโทรศัพท์มือถือ จนอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางด้านกล้ามเนื้อมัดเล็กอย่างเช่นนิ้วมือและข้อมือ รวมไปถึงด้วยซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการเขียนของเด็กโดยตรง แตกต่างจากเด็กที่ชอบเล่นปีนป่ายหรือออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้กล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่นั้นมีความแข็งแรงและใช้งานได้ อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

5 ข้อเสียของลูกติดหน้าจอมากเกินไป เสี่ยงต่อการเป็นเด็กออทิสติกเทียม5

มีปัญหาทางด้านสุขภาพ

โดยเฉพาะโรคอ้วน การติดหน้าจอโทรศัพท์มือถือนั้นนอกจากจะส่งผลเสียต่อระบบประสาทและสมองของเด็กแล้วยังส่งผลเสียต่อสุขภาพ และบุคลิกขอรูปได้อีกด้วย ซึ่งโรคอ้วนนั้นถือเป็นโรคแฝง ที่เกิดจากเด็กติดหน้าจอโทรศัพท์มากจนเกินไป จนไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกายเท่าทีควร ทำให้ลูกนั้นสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงและเจ็บป่วยได้ง่ายอีกด้วย

จะเห็นได้ว่า ภัยร้ายที่มาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ นั้นส่งผลต่อพัฒนาการทุกด้านของเด็กโดยตรง ถ้าหากเป็นไปได้คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลลูกอย่างใกล้ชิดและไม่ให้ลูกดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือนานจนเกินไป และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควรใช้เพื่อการเรียนรู้เท่าที่จำเป็นนั่นเอง  babyplaypark

เครดิต : สล็อตแตกง่าย

Facebook
Twitter