ถึงจะท้องแต่ก็ยังสวยได้ เคล็ดไม่ลับ “วิธีดูแลความสวยของคุณตั้งครรภ์” !

ถึงแม้รูปร่างจะเปลี่ยนไปในขณะที่กำลังตั้งครรภ์ สำหรับคุณแม่หลายๆ ท่าน อาจกำลังคิดว่ารูปร่างที่เปลี่ยนไปนั้นคือปัญหาสำหรับความสวย แต่แท้จริงแล้วต่อให้รูปร่างจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถทำลายความสวยของคุณแม่ได้เลย เพียงแค่เป็นแม่ต้องหมั่นบำรุงและดูแลตัวเองให้ดีเท่านั้น วันนี้จะมาบอกเคล็ดลับความสวยและวิธีดูแลตัวเองในขณะตั้งครรภ์ ! ผิวพรรณที่เปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งครรภ์ สำหรับคุณแม่บางท่านอาจจะผิวดูหยาบกร้านกว่าปกติ เกิดฝ้า และจุดด่างดำเต็มไปหมดในบริเวณใบหน้า แต่ในขณะเดียวกันสำหรับคุณแม่บางท่าน กลับมีผิวพรรณที่เปล่งประกาย สดใส จนเรียกได้ว่าน้ำมีนวล นั่นเกิดจากเพราะฮอร์โมนสูงขึ้นรวมถึงระบบเลือดไหลเวียนดีใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละคนสำหรับอาการต่างๆ เหล่านี้ เคล็ดลับแก้ไขเรื่อง “ผิวพรรณ” และโดยคุณแม่ที่มีผิวหน้ามันควรใช้โลชั่นช่วยปิดกระชับลูกขนค่ะหรือใช้รองพื้นสีด้านที่ดูเป็นธรรมชาติช่วยลดความมันส์และหากคุณแม่ยังมีผิวแห้งซึ่งในช่วงระยะตั้งครรภ์จะยิ่งทำให้ผิวหนังแห้งแตกและเป็นขุยก็ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าและทาครีมบำรุงผิวพรรณโดยเลือกเฉพาะครีมที่ทำให้ผิวชุ่มชื้น อาการฝ้าที่เกิดกับคุณแม่ตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่ในขณะที่กำลังตั้งครรภ์นั้นฝ้าจะลดลงก็ต่อเมื่อ คุณแม่ได้คลอดลูกน้อยแล้วประมาณ 3 – 4 เดือน แต่สำหรับคุณแม่ที่เป็นฝ้าอยู่ก่อนแล้ว จะยิ่งมีสีผิวที่เข้มขึ้น บนช่วงบริเวณแก้มทั้งสองข้าง สันจมูก ยิ่งชัดมาก อาการท้องลายของคุณแม่ตั้งครรภ์ คือปัญหาใหญ่สำหรับผู้หญิงหลายๆ คน ที่มักกังวลและกลุ้มใจอยู่เสมอ ส่วนใหญ่จะมีอาการลายที่หน้าท้องตอนล่าง บางคนอาจมีอาการลายที่ต้นขา หรือสะโพก ซึ่งเกิดจากการแตกของผิวหนังที่ยืดขยายอย่างรวดเร็ว และโปรตีนที่อยู่ใต้ผิวหนังแตกตัว ที่เป็นผลมาจากฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์นั่นเอง วิธีแก้อาการท้องลายของคุณแม่ตั้งครรภ์ ทำได้โดยให้คุณแม่ต้องพยายามควบคุมน้ำหนักในขณะตั้งครรภ์ ไม่ให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะจะทำให้ผิวหนังบริเวณหน้าท้องขยายตัวอย่างรวดเร็ว และนำไปสู่อาการท้องแตกลายได้ โดยปกติน้ำหนักของคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรเพิ่มตามจำนวนครรภ์ไม่เกิน 1 กิโลกรัมต่อเดือน ควรทำควบคู่ไปกับการทาครีมบำรุงผิว ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์อ่อนๆ […]
อยากให้ลูกน้อย “ เลิกอมอาหาร ” ต้องทำอย่างไร ?!

คุณพ่อคุณแม่หลายท่าน คงมีความกังวลใจอยู่ไม่น้อย เมื่อลูกน้อยของคุณไม่ยอมทานข้าว ทั้งยังชอบ “อมอาหาร” เป็นเวลานานๆก่อนจะตัดสินใจกลืน ซึ่งปัญหานี้มักพบมากในเด็กช่วงอายุ 1-3 ขวบ นับเป็นปัญหาหนักอกหนักใจคุณแม่เสมอเลยทีเดียว ความดราม่านี้มักจะเกิดขึ้น ในแทบทุกมื้ออาหาร วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับถึงวิธี ทำอย่างไรให้จึงจะทำให้ลูกน้อยเลิกอมอาหารได้เสียที ! สาเหตุหลักๆ ของการไม่ยอมกลืนข้าว ของลูกนั้นคงหนีไม่พ้นการห่วงเล่นมากเกินไป หรือลูกอาจมีการทานขนม ของขบเคี้ยวมาก่อนหน้านี้ ก่อนจะถึงมื้ออาหารจริง ลูกอาจอิ่มนม หรืออิ่มน้ำหวานมาแล้ว ซึ่งอาจทำให้ไม่หิว และดึงดูดความสนใจไปทำอย่างอื่น เช่น ดูโทรทัศน์ เล่นโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น หากที่ผ่านมาลูกได้ถูกบังคับให้รับประทานอาหารเป็นประจำ นั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกเกิดทัศนคติที่ไม่ดี ในการรับประทานอาหาร ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรมี วิธีการแก้ไขเพื่อไม่ให้ลูกน้อยของคุณไม่อมอาหารไว้ในปาก อีกต่ไปในขณะที่กำลังรับประทานอาหาร การฝึกให้ลูกรับประทานอาหารให้เป็นเวลา คือสิ่งสำคัญในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกได้ คุณแม่ต้องฝึกให้ลูกรับประทานอาหารให้ตรงเวลา ไม่ว่าจะเป็นมื้อ เช้า กลางวัน หรือเย็น โดยเมื่อทุกมื้ออาหารนั้น คุณแม่ควรนั่งรับประทานอาหารบนโต๊ะอาหารไปพร้อมๆ กับลูก การจัดเวลาการรับประทานอาหาร เป็นสิ่งสำคัญ โดยจัดระยะเวลาให้ห่างกันในแต่ละมื้ออย่างน้อยควรห่างประมาณ 3 ชั่งโมง และไม่ควรปล่อยให้ลูกนั่งรับประทานเกินมื้อละ 1 ชั่วโมง การกะปริมาณของอาหารให้พอเหมาะให้กับลูก ทั้งนี้เพื่อให้ลูกได้สามารถเคี้ยวข้าวได้ง่ายมากขึ้น […]