เมื่อ “ลูกพูดไม่เพราะ” คุณพ่อคุณแม่ควรมีวิธีการรับมืออย่างไร !

เมื่อ “ลูกพูดไม่เพราะ” คุณพ่อคุณแม่ควรมีวิธีการรับมืออย่างไร !

  เป็นปัญหาหนักอกหนักใจ สำหรับคุณพ่อคุณแม่หลายท่าน หากเมื่อไหร่ที่ได้พบเห็นว่าลูกของเราพูดจาไม่เพราะ หรือมีพฤติกรรมการพูดที่หยาบคาย อย่างที่เราไม่เคยคาดคิด แต่จะเชื่อหรือไม่ว่าจากสถิติส่วนใหญ่ สาเหตุของการที่ลูกพูดไม่เพราะมาจากภายในบ้าน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรสำรวจตัวเองว่าเผลอพูดคำต่างๆ ที่ไม่เหมาะสมเหล่านั้นออกมาหรือไม่  หากใช่ให้รีบปรับปรุงด่วน โดยการระมัดระวังคำพูดให้มากที่สุด วันนี้จะมาพูดถึงวิธีรับมือ “เมื่อลูกพูดไม่เพราะ” รวมถึงสาเหตุและวิธีป้องกันว่าควรทำอย่างไร   ก่อนอื่นต้องทราบสาเหตุกันก่อนว่าทำไม “ลูกถึงพูดไม่เพราะ”  บางครั้งเด็กอาจจะได้รับอิทธิพล ซึมซับคำพูดที่ไม่เพราะทั้งหลายเหล่านั้น มาจากผู้ใหญ่ในบ้าน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องยอมรับความจริงด้วยว่า ถึงแม้คุณอาจไม่ได้ตั้งใจพูด ดหรือพูดเพียงครั้งเดียวก็ตาม แต่ต้องเข้าใจด้วยเช่นกันว่าเด็กก็สามารถซึมซับประทับคำพูดต่างๆ ไว้ในสมองได้เช่นกัน สำหรับเด็กในวัยที่กำลังหัดจำ พวกเขาจะจดจำคำพูดของผู้ใหญ่ และนำคำพูดต่างๆ ที่ได้ยินมาพูดตาม    ที่โรงเรียนก็เป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งลูกอาจซึมซับมาจากเพื่อน หรือได้ยินเด็กในโรงเรียนคุยกัน จนจำมาพูดตาม หรือบางครั้งการเสพสื่ออย่างเช่นสื่อทีวี การดูละครต่างๆ คำพูดในทีวี บางครั้งก็เป็นคำพูดที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกระหว่างที่ดูทีวีไปด้วยกัน โดยค่อยๆ สอนเขาว่าคำพูดนี้เหมาะสมหรือคำพูดนี้ไม่เหมาะสม ก่อนที่เขาจะมีพฤติกรรมลอกเลียนแบบโดยจำคำพูดในทีวีเหล่านั้นมาพูดตาม   วิธีการสอน “เมื่อลูกพูดไม่เพราะ” การที่ลูกพูดไม่เพราะนั้น คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งตกใจ และในขณะเดียวกันก็ห้ามหัวเราะ หรือเห็นเป็นเรื่องขำโดยเด็ดขาด เพราะเด็กจะเข้าใจผิด คิดว่าพ่อแม่คงชอบ คำพูดไม่เพราะเหล่านั้นที่พวกเขาได้พูดออกมา ถึงแม้คุณพ่อคุณแม่จะไม่ชอบก็ควรเก็บไว้ในใจ ไม่ควรต่อว่าเขา หรือตำหนิเขาในทันที แต่คุณพ่อคุณแม่ควรตั้งสติ และค่อยๆ สอนเขาว่า […]

ทำไมคุณแม่หลังคลอดถึงต้อง “ อยู่ไฟ ” มีประโยชน์อย่างไรบ้าง เรามีคำตอบ!

ทำไมคุณแม่หลังคลอดถึงต้อง “ อยู่ไฟ ” มีประโยชน์อย่างไรบ้าง เรามีคำตอบ!

  คุณแม่หลังคลอดหลายๆ ท่านคงเคยมีความสงสัยเกี่ยวกับการ “ อยู่ไฟ ” ว่าทำไมจะต้องอยู่ไฟ การอยู่ไฟคืออะไร เพื่ออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง วันนี้จึงนำสาระข้อมูลเกี่ยวกับการอยู่ไฟ ของคุณแม่หลังคลอดมาฝาก จะมาบอกถึงข้อดีของการอยู่ไฟ พร้อมวิธีการ “อยู่ไฟ” ว่าจะช่วยคุณแม่หลังคลอดในเรื่องอะไรได้บ้าง มาไขข้อสงสัยให้ได้ทราบกัน ไปดูกันเลย   การ “อยู่ไฟ” สำหรับคุณแม่หลังคลอด นั้นคือการดูแลสุขภาพอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ที่มีมาอย่างยาวนาน การอยู่ไฟมีประโยชน์กับคุณแม่หลังคลอด เพราะจะทำให้ร่างกายของคุณแม่หลังคลอดนั้น ได้ฟื้นฟูจากความเหนื่อยล้า ที่อุ้มท้องมาเป็นระยะเวลาหลายเดือน ให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว    ความร้อนในการ “ อยู่ไฟ ” จะช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายของคุณแม่หลังคลอดให้หายเหนื่อยล้า ทำให้กล้ามเนื้อเส้นเอ็นบริเวณหลัง ที่เคยถูกกดทับในช่วงตั้งครรภ์ ได้ขยายตัวลงซึ่งเป็นการลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ดี   ในสมัยก่อนการ “อยู่ไฟ” หลังคลอด นั้น จะต้องมีเรือนไฟหรือสร้างกระท่อมเล็กๆ ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณแม่ได้นอนอยู่ข้างใน และได้นอนพิงไฟพร้อมกับลูกน้อย โดยลูกน้อยจะนอนอยู่ในกระด้ง ส่วนคุณแม่ก็จะนอนอยู่บนแผ่นกระดานไม้แผ่นเดียว ในทุกๆวันนั้นคุณแม่หลังคลอดต้องห้ามอาบน้ำเย็น และต้องดื่มเฉพาะน้ำอุ่นเท่านั้น   การทานอาหารของคุณแม่อยู่ไฟ คุณแม่จะต้องงดของการทานอาหารที่ทำให้แสลง โดยการทานข้าวกับเกลือ หรือปลาเค็ม ซึ่งการอยู่ไฟของคนในสมัยก่อนนั้น คุณแม่จะต้องอยู่ในเรือนไฟประมาณ 7-15 […]

อยากรู้ไหม อะไรคือปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการด้าน “ ภาษา ” ของลูก !

อยากรู้ไหม อะไรคือปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการด้าน “ ภาษา ” ของลูก !

  “ ภาษา มีความสำคัญต่อต่อมนุษย์ ” เพราะภาษาคือสื่อกลางในการทำความเข้าใจ ระหว่างคนให้สามารถสื่อสารถึงกันรู้เรื่อง ไม่ว่าจะด้วยท่าทางที่เป็นสัญลักษณ์ การพูด การแสดงออกทางสีหน้า หรือแม้แต่การเขียน ทุกอย่างรวมเอามาใช้ในการติดต่อสื่อสาร จนรวบรวมมาเป็นภาษาต่างๆ ดังนั้นภาษาจึงเป็นเครื่องมือ ในการเรียนรู้ของมนุษย์ให้มีพัฒนาการด้านต่างๆ ได้ดีขึ้น วันนี้จะมาพูดถึงประเด็นของปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อพัฒนาการด้านภาษาของลูกน้อย ซึ่งน่าจะมีประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่าน ปัจจัยต่างๆเหล่านั้นคืออะไร ไปดูกันเลย    พัฒนาการด้านสติปัญญา นับเป็นสิ่งสำคัญ อันดับแรกๆ ที่มีผลต่อการต่อพัฒนาการด้านภาษาของลูก คำพูดของเด็กเป็นตัวบ่งชี้เดียวที่ดีที่สุด ที่จะบอกถึงไอคิวของเด็กคนนั้นว่าเป็นอย่างไร หากเด็กพูดเร็วซึ่งหมายความว่าเด็กคนนั้นมีพัฒนาการที่เร็ว แต่ในทางตรงกันข้าม หากเด็กคนไหนพูดช้าซึ่งก็หมายถึงพัฒนาการช้าเช่นเดียวกัน     ไอคิวที่แตกต่างกัน ทำให้ความสามารถ ในการเข้าใจความหมายของคำต่างๆ แตกต่างกันออกไป เด็กที่พูดเร็วจะสามารถเข้าใจสิ่งที่พ่อแม่สื่อได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาจึงสามารถจดจำสิ่งของ และผู้คนได้เร็ว แม้กระทั่งสามารถพูดทวนคำพูดประโยคของพ่อแม่ได้อย่างถูกต้อง และเร็วกว่าเด็กคนอื่นๆ  เด็กที่มีสติปัญญาดีจะสามารถเรียนรู้คำศัพท์ และสร้างประโยชน์ในระยะยาวได้ เพราะการที่เด็กได้เรียนรู้คำศัพท์มากมายขึ้น เด็กก็จะเกิดการพัฒนาด้านสติปัญญาเช่นเดียวกัน การกระตุ้นพัฒนาการของภาษา อย่างเช่น การส่งเสริมเขาด้วยการกอด ชื่นชมเมื่อเขาแสดงถึงพัฒนาการด้านภาษาออกมา    สภาพแวดล้อมคือส่วนสำคัญสำหรับพัฒนาการด้านภาษาของลูกอย่างยิ่ง เด็กที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจะได้รับการกระตุ้น เพื่อให้มีพัฒนาการด้านการพูดที่เร็วขึ้น นักวิจัยได้ทำการสังเกตเด็กกำพร้าจนพบว่า เด็กที่ได้รับอุปถัมภ์จะมีพัฒนาการที่ทางด้านภาษาได้ดีกว่า เด็กที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หรือในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ได้รับการกระตุ้นให้พูด อาจเป็นเพราะผู้ดูแลในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มักจะพูดน้อย […]