สำหรับคุณแม่ท่านไหนที่กำลังให้นมลูกน้อยอยู่นั้น ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาทองที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคนเป็นแม่เลยก็ว่าได้ เพราะน้ำนมที่ให้ลูกน้อยทานนั้น ล้วนแล้วแต่มีคุณประโยชน์ทั้งทางด้านร่างกาย ด้านโภชนาการ รวมถึงการพัฒนาสมองของลูกน้อย ที่จะเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ มีภูมิต้านทานต่อเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆที่สามารถพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน อีกทั้งลูกน้อยยังฉลาดสมวัยจากสารอาหารและวิตามินที่ส่งผ่านทางน้ำนมแม่ได้อีกด้วย นั้นนั้น คุณแม่ที่ให้นมอยู่จึงต้องระมัดระวังในหลายๆด้านเป็นพิเศษ และอาจมีหลายคำถามที่กำลังสงสัยอยู่ในขณะนี้ว่าสิ่งไหนสามารถทำได้ ไม่ได้ หรือมีผลกระทบใดต่อลูกน้อยหรือไม่ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเหล่านั้นไปพร้อมๆกัน
1.น้ำนมสีเหลืองคืออะไร
เป็นคำถามที่น่าจะเกิดขึ้นกับคุณแม่หลายๆท่าน ซึ่งน้ำนมสีเหลืองนี้คุณแม่จะพบได้ในทุกคน เป็นน้ำนมส่วนแรกที่ร่างกายผลิตขึ้นมาในช่วงหลังคลอด มีเพียง 1-3 วันหลังคลอดเท่านั้น น้ำนมส่วนนี้เรียกว่า โคลอสตรัม ถือว่าเป็นช่วงระยะแรกของการสร้างน้ำนมแม่ ซึ่งจะมีสารอาหารสูงมาก อาทิ โปรตีน โซเดียม ไขมัน อีกทั้งยังมีวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยอย่างมากมาย ช่วยให้ลูกมีภูมิต้านทานที่สูงขึ้น แข็งแรงมากขึ้น เมื่อน้ำนมส่วนนี้หมดไป จะกลายมาเป็นน้ำนมสีขาวขุ่น ที่จะช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโตแทน
2.น้ำนมส่วนหน้า มีความใส จะมีประโยชน์ต่อลูกน้อยหรือไม่?
น้ำนมแม่ถือว่ามีประโยชน์ทุกหยด น้ำนมในส่วนแรกที่ใสมักจะพบบ่อยมากในช่วงที่คัดเต้านมบ่อยๆ น้ำนมในส่วนนี้จะมีปริมาณโปรตีนสูง ส่วนน้ำนมส่วนท้ายนั้นจะมีปริมาณไขมันสูง จะมีปะโยชน์ในเรื่องของการเพิ่มน้ำหนักตัว สำหรับคุณแม่ท่านไหนที่ให้ลูกเข้าเต้านั้น ควรให้ลูกได้รับทั้งน้ำนมส่วนแรกและน้ำนมส่วนหลังจะดีที่สุด ให้ดูดจนเกลี้ยงเต้า ลูกน้อยจะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน
3.ลูกไม่ยอมเข้าเต้า
ถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคุณแม่ เพราะอาจส่งผลทางด้านจิตใจ ทำให้คุณแม่เศร้าเสียใจ เกิดความเครียด กังวลจากการที่ลูกไม่ยอมดูดเต้า ที่จะมาพร้อมกับปัญหาปริมาณน้ำนมที่ลดลงไป สาเหตุที่ลูกไม่เอาเต้านั้นมีหลายสาเหตุ เช่น ลูกติดจุกนม, ลูกยังดูดนมไม่เก่ง, ท่าในการเอาเข้าเต้าไม่ถูกต้อง เป็นต้น ในกรณีนี้ถ้าอยากให้ลูกกลับมาเข้าเต้าได้เหมือนเดิมนั้น ให้ยกเลิกการใช้ขวดนม และพยายามให้ลูกเข้าเต้าทุกครั้งที่เขาหิวนม ถ้าหากสถานการณ์ไม่มีขึ้น ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยวินิจฉัยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
4.ลูกสำลักนมบ่อย เพราะน้ำนมพุ่งแรง
เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่คุณแม่ต้องเคยเจอ คุณแม่อาจเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่าในช่วงที่นมจี๊ด หรือช่วงที่ร่างกายผลิตน้ำนมมาเป็นพิเศษช่วงนั้นน้ำนมจะไหลแรงและพุ่งอาจทำให้ลูกบางคนเกิดการสำลักได้ วิธีนี้สามารถแก้ไขได้โดยการใช้นิ้วมือสะอาดบีบที่บริเวณหัวนมเพื่อลดอัตราการไหลของน้ำนมที่มากเกินไปได้ ในขณะเดียวกัน ถ้าหากคุณแม่ใช้วิธีนี้แล้วลูกยังเกิดการสำลักอยู่ นั่นอาจเกิดจากความผิดปกติของการดูดกลืน ปัญหานี้ต้องรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยทันที
5. น้ำนมน้อยไม่พอให้ลูกทาน
เป็นปัญหาที่ส่งผลให้คุณแม่เกิดความเครียดขึ้นได้ ถ้าหากคุณแม่มีความวิตกกังวลและเครียดกับปริมาณน้ำนมมากเกินไปจะยิ่งทำให้น้ำนมนั้นไหลน้อยยิ่งขึ้น คุณแม่ต้องปล่อยวางและหาวิธีเสริมในการกระตุ้นน้ำนมให้ค่อยๆผลิตมากขึ้น โดยไม่ต้องคาดหวังกับปริมาณ เช่นการขยันปั๊มนมให้สม่ำเสมอ โดยแนะนำให้ปั๊มอย่างน้อยทุกๆ 3 ชั่วโมง ให้ลูกดูดกระตุ้นบ่อยมากขึ้นจะทำให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้มากขึ้น นอกจากนี้คุณแม่สามารถทานอาหารเสริมได้เช่น น้ำขิง น้ำหัวปลี ตะไคร้ ฟักทอง มะรุม เป็นต้น นอกจากนี้ต้องดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 3 ลิตร ผสมผสานกับการพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้คุณแม่มีน้ำนมมากขึ้น
และนี่ถือเป็นเพียงคำถามบางส่วนที่พบบ่อยมากในคุณแม่ให้นมเท่านั้น สำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาดังกล่าวข้างต้น สามารถนำเทคนิคหรือวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพื่อให้การเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่นั้นเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประโยชน์สูงสุดนั่นเอง babyplaypark
Credit ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ