เคล็ดลับฝึกลูกเลิกแพมเพิส ลูกน้อยเมื่อก้าวเข้าสู่วัย 1.6 – 2 ขวบ มักจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฝึกลูกนั่งกระโถนและเลิกแพมเพิสได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เป็นช่วงวัยที่ลูกจะเข้าใจและฝึกเลิกได้เร็ว เพราะในช่วงวัยนี้ ส่วนมากแล้ว เด็กจะสามารถบอกความต้องการ หรือบอกความรู้สึกตัวเองได้บ้างแล้ว เช่น ปวดฉี่ ปวดอึ จึงทำให้เหมาะสมในการปลูกฝังให้เลิกแพมเพิสได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของลูกเป็นหลัก ไม่ยึดจำนวนอายุเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่น เพราะถ้าหากลูกยังสื่อสารได้ไม่ดี ยังไม่เข้าใจความหมายของการอึ หรือ ฉี่ หากฝืนฝึกไปจะทำให้ลูกรู้สึกกดดันอาจจะเริ่มจากการอ่านหนังสือนิทานเลิกแพมเพิส ค่อยๆซึมซับ เรียนรู้ และพร้อมที่จะปรับตัว วันนี้เราจึงได้รวบรวมเคล็ดลับที่จะช่วยฝึกให้ลูกแพมเพิสได้สำเร็จเร็วมากขึ้นมาฝากกัน สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดกันได้เลย
1. ให้ลูกคุ้นชินกับกระโถน
สำหรับเด็กที่จะเลิกแพมเพิสจะต้องทำความรู้จักและคุ้นเคยกับกระโถนเป็นอย่างดี ไม่มีอาการกลัวกระโถน จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ฝึกลูกเลิกแพมเพิสได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยคุณแม่อาจจะปลูกฝังจากการเล่านิทาน ให้ลูกเห็นความสำคัญของกระโถนไว้สำหรับนั่งอึหรือฉี่ เอากระโถนไว้ใกล้ๆ ให้มองเห็นอยู่ตลอดเวลาลูกจะคุ้นเคยกับกระโถนมากยิ่งขึ้น บอกให้ลูกเข้าใจว่าเวลาปวดฉี่หรือปวดอึให้บอก ช่วงแรกๆอาจจะนั่งกระโถนแบบไม่ต้องถอดแพมเพิส เมื่อลูก คุ้นเคยดีแล้ว รอคอยถอดแพมเพิสแล้วนั่งแบบเพลินๆไม่ต้องกดดัน การฝึกเลิกแพมเพิสจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยต้องห้ามบังคับลูกอย่างเด็ดขาดไม่เช่นนั้น จะทำให้ลูกกลัวกระโถนและฝึกยากมากยิ่งขึ้น
2. สังเกตช่วงเวลาการขับถ่ายของลูก
ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะให้ คุณพ่อคุณแม่ฝึกลูกได้ง่ายยิ่งขึ้น ถ้าหากรู้ช่วงเวลาคร่าวๆของการอึหรือฉี่ก็จะทำให้คุณแม่เตรียมพร้อมได้ง่ายมากขึ้น โดยเริ่มจากการฝึกช่วงเช้าของทุกวันให้นั่งกระโถนเหมือนผู้ใหญ่ ช่วงแรกลูกอาจจะยังไม่เคยชินสักเท่าไหร่นักคุณพ่อคุณแม่ต้องห้ามถอดใจ ฝึกบ่อยๆทุกวันจะทำให้ลูกเคยชิน สุดท้ายแล้ว เวลาจะขับถ่ายลูกจะนั่งกระโถนเองโดยอัตโนมัติ
3. เริ่มฝึกฉี่ในช่วงเวลากลางวัน
โดยจะต้องให้ลูกทำความรู้จักกับกางเกงใน ขอแนะนำให้เลือกลายกางเกงในลายน่ารัก ซึ่งอาจจะเป็นลายการ์ตูนหรือลายสัตว์ก็ตามจะทำให้ลูกรู้สึกอยากใส่กางเกงในตลอดทั้งวัน ในระหว่างวันให้หมั่นถามลูกบ่อยๆ ว่าปวดฉี่หรือปวดอึหรือไม่ ทุกๆครึ่งชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมง ช่วงแรก ลูกอาจจะยังไม่เข้าใจและแน่นอนว่าจะต้องมีฉี่รดกางเกงในอย่างแน่นอน คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งถอดใจ ค่อยๆให้เวลาลูกได้ปรับตัว
4. เมื่อลูกทำได้ให้ชื่นชมและให้รางวัล
การชมลูกนั้นจะมีผลต่อจิตใจอย่างมาก จะทำให้เขามีกำลังใจในการทำครั้งต่อไปได้ดีมากยิ่งขึ้น ลูกจะพยายามมากขึ้นกว่าเดิม ผสมผสานกับการกระทำเชิงบวก เช่น ตบมือพร้อมคำชม เก่งมากเลยค่ะ หรือ หอมแก้ม กอดเขาแล้วกับลูกว่าพยายามดีมากเลยค่ะ เป็นต้น
5. คุณพ่อคุณแม่ต้องอดทนอย่างมาก
ในการฝึกเลิกแพมเพิสให้กับลูกนั้นถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ท้าทายของคุณพ่อคุณแม่อย่างมาก สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องมีไปพร้อมๆกับลูกเลยนั่นก็คือความอดทน การฝึกเลิกแพมเพิสนั้นไม่กำหนดระยะเวลาเลย เด็กแต่ละคนมีความสามารถไม่เท่ากัน พ่อแม่จะต้องใจเย็นๆ อาจจะใช้เวลาสักหน่อยให้ลูกได้ทำการปรับตัว สิ่งที่ต้องระวังให้มากเลยคือห้ามบังคับลูกจนทำให้ลูกเกิดความกลัว เพราะจะทำให้ลูกต่อต้านและไม่ปฏิบัติตามในครั้งต่อไปนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ เคล็ดลับฝึกเรื่องแพมเพิส ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ เห็นได้ว่าถ้าหากฝึกในช่วงที่ลูกมีความพร้อม จะทำให้สามารถปฏิบัติตามได้ง่ายมากยิ่งขึ้นโดยที่ไม่รู้สึกกดดัน ลูกจะมีความพร้อมที่จะปรับตัวไปพร้อมๆกับคุณพ่อคุณแม่ได้มากยิ่งขึ้น โดยเคล็ดลับที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้นั้นสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละบ้านกันได้ง่ายๆเลย ให้ลูกค่อยๆปรับตัว และเลิกแพมเพิสได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน สำหรับคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนที่มีลูกกำลังอยู่ในช่วง ไว้ก่อนเข้าอนุบาล เคล็ดลับเหล่านี้ถือว่ามีประโยชน์ แล้วจะทำให้ลูกมีความพร้อมเข้าโรงเรียนได้ไวมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
