ทำไมคุณแม่หลังคลอดถึงต้อง “ อยู่ไฟ ” มีประโยชน์อย่างไรบ้าง เรามีคำตอบ!

  คุณแม่หลังคลอดหลายๆ ท่านคงเคยมีความสงสัยเกี่ยวกับการ “ อยู่ไฟ ” ว่าทำไมจะต้องอยู่ไฟ การอยู่ไฟคืออะไร เพื่ออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง วันนี้จึงนำสาระข้อมูลเกี่ยวกับการอยู่ไฟ ของคุณแม่หลังคลอดมาฝาก จะมาบอกถึงข้อดีของการอยู่ไฟ พร้อมวิธีการ “อยู่ไฟ” ว่าจะช่วยคุณแม่หลังคลอดในเรื่องอะไรได้บ้าง มาไขข้อสงสัยให้ได้ทราบกัน ไปดูกันเลย

ทำไมคุณแม่หลังคลอดถึงต้อง “ อยู่ไฟ ” มีประโยชน์อย่างไรบ้าง เรามีคำตอบ!

  การ “อยู่ไฟ” สำหรับคุณแม่หลังคลอด นั้นคือการดูแลสุขภาพอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ที่มีมาอย่างยาวนาน การอยู่ไฟมีประโยชน์กับคุณแม่หลังคลอด เพราะจะทำให้ร่างกายของคุณแม่หลังคลอดนั้น ได้ฟื้นฟูจากความเหนื่อยล้า ที่อุ้มท้องมาเป็นระยะเวลาหลายเดือน ให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว 

  ความร้อนในการ “ อยู่ไฟ ” จะช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายของคุณแม่หลังคลอดให้หายเหนื่อยล้า ทำให้กล้ามเนื้อเส้นเอ็นบริเวณหลัง ที่เคยถูกกดทับในช่วงตั้งครรภ์ ได้ขยายตัวลงซึ่งเป็นการลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ดี

  ในสมัยก่อนการ “อยู่ไฟ” หลังคลอด นั้น จะต้องมีเรือนไฟหรือสร้างกระท่อมเล็กๆ ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณแม่ได้นอนอยู่ข้างใน และได้นอนพิงไฟพร้อมกับลูกน้อย โดยลูกน้อยจะนอนอยู่ในกระด้ง ส่วนคุณแม่ก็จะนอนอยู่บนแผ่นกระดานไม้แผ่นเดียว ในทุกๆวันนั้นคุณแม่หลังคลอดต้องห้ามอาบน้ำเย็น และต้องดื่มเฉพาะน้ำอุ่นเท่านั้น

  การทานอาหารของคุณแม่อยู่ไฟ คุณแม่จะต้องงดของการทานอาหารที่ทำให้แสลง โดยการทานข้าวกับเกลือ หรือปลาเค็ม ซึ่งการอยู่ไฟของคนในสมัยก่อนนั้น คุณแม่จะต้องอยู่ในเรือนไฟประมาณ 7-15 วัน ในระหว่างการอยู่ไฟนั้นห้ามออกจากเรือนไฟโดยเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายของคุณแม่ปรับตัวไม่ทัน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเจ็บป่วยต่างๆได้ จนถึงขั้นหนาวสะท้านไปตลอด หากคุณแม่หลังคลอดอยู่ในเรือนไฟไม่ถึงเวลา 7-15 วัน คนสมัยก่อนจะเรียกว่า อยู่ไฟไม่ครบ 

  ประโยชน์ของการอยู่ไฟหลังคลอด ถือเป็นการดูแลสุขภาพมาอย่างยาวนาน และปัจจุบันนี้ยังคงมีการอยู่ไฟสำหรับคุณแม่หลังคลอดยุคใหม่เช่นกัน การอยู่ไฟนี้จะช่วยฟื้นฟูร่างกายของคุณแม่ได้ในหลายเรื่อง อย่างเช่น ช่วยการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดภายในร่างกาย ให้กลับสู่สภาพปกติได้อย่างรวดเร็ว

  การอยู่ไฟช่วยลดภาวะความรู้สึกหนาวในร่างกายได้ ที่หลายๆคนมักจะเรียกอาการหนาวสะท้านกว่าปกติว่า “หนาวเข้ากระดูก” เนื่องจากจะมีความหนาวผิดปกติกว่าตอนที่ยังไม่ตั้งครรภ์ ซึ่งการอยู่ไฟให้ครบนี้ จะช่วยลดภาวะความหนาวภายในร่างกายดังที่กล่าวมาข้างต้นได้

  การอยู่ไฟสามารถช่วยทำให้ผิวพรรณสดใสมาก เปร่งปลั่งสุขภาพดี มีน้ำมีนวลขึ้น ทั้งยังลดอาการปวดเมื่อยตามข้อต่างๆของร่างกาย ลดอาการอ่อนเพลียจากการเสียเลือดในช่วงที่คลอดลูกได้อย่างดี นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายแข็งแรงและมีภูมิต้านทานโรคมากขึ้น

  การอยู่ไฟทำให้หน้าท้องยุบเร็วขึ้น ช่วยทำให้สรีระของคุณแม่หลังคลอดกลับสู่สภาพเดิมได้เร็วที่สุด ทั้งยังลดความเจ็บปวดขณะมดลูกหดรัดตัว ให้กลับสู่สภาวะปกติหรือที่เรียกกันว่า “ มดลูกเข้าอู่” นั่นเอง ข้อดีของการอยู่ไฟยังมีอีกมากมายแต่หลักๆแล้ว คุณแม่หลังคลอดจะสุขภาพดีขึ้นได้เร็ว กว่าคุณแม่หลังคลอดที่ไม่ได้อยู่ไฟ นี้เป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ 

  ขั้นตอนของการอยู่ไฟ  จะทำโดยให้คุณแม่หลังคลอดได้อาบน้ำต้มสมุนไพร ที่ประกอบด้วยสมุนไพรนานาชนิด ซึ่งสมุนไพรต่างๆ นั้นจะซึมผ่านผิวหนังของคุณแม่ ช่วยให้สดชื่นกระปี้กระเปร่า ลดอาการเพลียและอ่อนล้า ลดการปวดเมื่อย ส่วนสมุนไพรที่ใช้อาบน้ำ เช่น ขมิ้น ใบส้มป่อย มะกรูด มะขามตะไคร้ และสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยให้มดลูกเข้าอู่ ซึ่งแล้วแต่ตามท้องถิ่นจะหาได้ จากนั้นก็จะประคบสมุนไพรโดยการนำลูกประคบร้อน ที่ห่อด้วยสมุนไพรต่างๆ อย่าง ใบส้มป่อย ตะไคร้ การบูร และทำขมิ้น เป็นหลัก มาคลึง นวดตามร่างกาย รวมไปถึงเต้านม ของคุณแม่  

  ข้อแนะนำสำหรับการอยู่ไฟหลังคลอด มีสองอย่าง คือสำหรับคุณแม่ที่คลอดเองตามธรรมชาติ สามารถอยู่ไฟได้ภายหลังจากพักฟื้นแล้วเจ็ดวันขึ้นไป แต่สำหรับคุณแม่ที่ผ่าคลอดยังไม่สามารถอยู่ไฟได้ทันที แต่จะต้องรอให้แผลผ่าตัดหายดี และแห้งสนิทเสียก่อน เพื่อป้องกันการอักเสบปวดของแผลผ่าตัดและในขณะที่กำลังอยู่ไฟ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านสำหรับบทความ ทำไมคุณแม่หลังคลอดถึงต้อง “  อยู่ไฟ ” มีประโยชน์อย่างไรบ้าง เรามีคำตอบ!   อันนี้ 

Taxx 17/1/64 แม่และเด็ก 

เครดิตภาพ www.google.com 

https://www.pobpad.com/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%9F-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B9%83%E0%B8%99
Facebook
Twitter