การเลี้ยงลูกด้วยภาษาที่ 2 มีคุณแม่หลายท่านที่เคยมีสงสัยเกี่ยวกับการสอนลูกในเรื่องของภาษาที่ 2 และปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคปัจจุบันภาษาที่ 2 ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเติบโตและพัฒนาการของลูกในอนาคต ทำให้มีคำถามต่อมาว่าแล้วภาษาอะไรที่เหมาะที่จะเป็นภาษาที่ 2 ของลูก คำตอบง่ายที่สุดคือภาษาที่ลูกต้องคลุกคลีตั้งแต่เกิดจนเติบโตหรือภาษาที่คุณพ่อคุณแม่วางแผนไว้ให้นั่นแหละ
การเริ่มต้นการเลี้ยงลูกด้วยภาษาที่ 2 การเริ่มต้นใช้ภาษาที่ 2 กับลูกแนะนำว่าคุณแม่สามารถ input ภาษาที่ 2 ให้กับลูกได้เมื่อคุณแม่เริ่มตั้งท้อง อาจมีคำถามขำขำว่าลูกสามารถพูดได้ตั้งแต่อยู่ในท้องเลยเหรอ ลูกจะงงมั้ยแม่ทำอะไรไม่ขนาดนั้นค่ะเพียงแต่พัฒนาการของลูกจะถูกเชื่อมต่อจากแม่ดังนั้นคุณแม่สามารถฝึกเองได้ตั้งแต่เริ่มตั้งท้อง เว้นเสียแต่ว่าคุณแม่จะเขินตัวเองเล็กน้อยเมื่อต้องพูดภาษาที่สองกับลูก (แอบยิ้ม)
ดังนั้นให้คุณแม่คิดเอาไว้เสมอนะคะว่าลูกสามารถรับรู้ได้ตั้งแต่ที่เค้าเริ่มมีพัฒนาการในท้องของคุณแม่ ไม่ว่าคุณแม่จะทำอะไร จะพูดอะไร เหมือนลูกจะในท้องจะเป็นเมมโมรี่ชิฟอย่างดีที่ฝังอยู่ในตัวคุณแม่เลยค่ะ
เทคนิคการเลี้ยงลูกด้วยภาษาที่ 2 มาเริ่มกันที่เทคนิคการเริ่มต้นสอนภาษาที่ 2 กับลูกกันค่ะ เอาเป็นว่าเราเริ่มจากที่คุณแม่ตั้งท้องเลยนะคะ สิ่งแรกที่คุณแม่ต้องทำคือ self talk หรือการพูดกับตัวเอง บอกไว้นะคะเราไม่ได้เริ่มเสียสตินะคะคุณแม่เพียงแต่การที่ลูกอยู่ในท้องเท่ากับเรามีกันและกันค่ะ (ยิ้ม) เราไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไป คุณแม่สามารถทักทายสวัสดีตอนเช้า บอกเล่ากิจกรรมที่แม่ทำในแต่ละวัน (เป็นภาษาที่ 2 นะคะ) มันคือการที่เรากำลัง input ภาษาให้กับเค้าโดยไม่รู้ตัวค่ะ
เมื่อลูกคลอด คุณแม่ก็สามารถทำเหมือนเดิมที่เคยทำคือการคุยกับลูกเหมือนตอนที่ลูกอยู่ในท้อง แน่นอนค่ะลูกยังไม่สามารถสื่อสารกลับมาให้เราได้ในวัยทารก แต่การที่คุณแม่พูดกับลูกบอกเล่าเรื่องให้ลูกฟังทุกวัน ความเคยชินจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ลูกจะเริ่มคุ้นเคยกับภาษาที่ลูกได้ยินมาตั้งแต่ลืมตา
เริ่มพัฒนาการการจำ จะเห็นได้ว่าเดี๋ยวนี้พัฒนาการเด็กเร็วขึ้นมากลูกสามารถออกเสียงพูดคุยได้ตั้งแต่ 1-2 เดือนเลยค่ะ การอู้อี้บู้บี้ของเขาให้คุณแม่ assume ว่าลูกกำลังสื่อสารเล่าเรื่องราวบางอย่างให้เราฟัง คุณแม่สามารถใส่ภาษาที่ 2 ได้ไม่ยั้งเลยนะคะเมื่อคุณแม่เห็นพัฒนาการนี้ นั่นคือลูกจะคุ้นชินกับการพูดคุยและเริ่มจดจำในวัยที่ลูกเริ่มมีพัฒนาการทางด้านความจำค่ะ
คุณแม่อาจจะต้องเตรียมพร้อมกับคำนี้นะคะ Full of surprise คือเมื่อคุณมีลูกคนเป็นแม่มักจะได้รับความประหลาดใจจากลูกเสมอโดยเฉพาะในเรื่องการการพูดในวัยเริ่มหัดพูด คุณแม่จะได้ยินคำพูดบางคำที่บางครั้งเราไม่รู้ว่าเราเคยสอนหรือเคยพูดกับลูกไปตอนไหน
ข้อดีของการพูดคุยกับลูกตลอดเวลานั่นคือลูกจะเริ่มฝึกพัฒนาการในเรื่องของจังหวะการพูดและโทนเสียง ลูกจะเริ่มเรียนรู้จักหวะและโทนเสียงคุยของแม่ และของพ่อหรือหลายคนที่อยู่รอบตัว เรื่องนี้ต้องเน้นย้ำนะคะว่าการพูดคุยกับลูกถึงแม้ว่าลูกยังไม่สามารถสื่อสารกับเราได้แต่การพูดต้องพูดให้เป็นภาษา ต้องมีจังหวะ มีโทนเสียงขึ้นลงแบบเป็นธรรมชาติ ให้คิดเสมอว่าลูกคือนักเรียนที่เราต้องสอนตลอดเวลา และลูกจะจดจำทุกอย่างตั้งแต่ลูกเริ่มมีพัฒนาการ
สุดท้ายของการเลี้ยงลูกด้วยภาษาที่ 2 สิ่งหนึ่งที่คุณแม่ต้องจำไว้นะคะ เด็กทุกคนที่เกิดมาทุกคนมีความ Ginius มาพร้อมค่ะ เพราะฉะนั้นเมื่อเราเริ่ม input ตั้งแต่ตั้งท้องจนถึงวันที่ลูกเริ่มเก็บเกี่ยวพัฒนาการ นั่นคือการที่ลูกจะได้รับสิ่งที่เพิ่มเติมจากความอัจฉริยะเข้าไปฝังในตัวอีกประมาณได้ว่าลูกคุณคือ Baby Ginius แบบนั้นเลย และแน่นอนว่าสิ่งที่คุณแม่พูดคุยกับลูกมาตลอดการตั้งท้องจนโต ลูกสามารถจดจำทุกพฤติกรรมได้อย่างดีเยี่ยม เว็บสล็อตแตกง่าย 2021 ไม่ผ่านเอเย่นต์
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เว็บสล็อตแท้
