เลี้ยงลูกคนโตไม่ให้ขาดความรัก ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญของครอบครัวที่มีลูก 2 คนขึ้นไปเลย ลักษณะและวิธีการเลี้ยงดูเด็กแต่ละช่วงวัยนั้นจะมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย ถึงแม้ว่าผู้ใหญ่จะรู้สึกว่าพี่คนโตนั้นสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว จึงอาจเผลอให้ความสำคัญกับลูกคนเล็กไปมากกว่า ซึ่งแน่นอนว่าผลกระทบที่ตามมานั้นคือทางด้านจิตใจของลูกคนโต อาจจะรู้สึกน้อยใจ ปรับตัวไม่ทัน จะต้องยอมเสียสละให้กับน้อง จนอาจทำให้เด็กรู้สึกถึงความใส่ใจของคุณพ่อคุณแม่ที่มีต่อเขาลดน้อยลง ซึ่งก็ถือว่าเป็นปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อทุกคนในครอบครัวตามมาแบบไม่สิ้นสุด ดังนั้นวันนี้เราจึงรวบรวมเคล็ดลับในการเลี้ยงลูกคนโตอย่างไรให้รู้สึกผูกพันและรักน้องมากที่สุด โดยที่ไม่กระทบต่อจิตใจหรือไม่รู้สึกถึงการขาดความรักจากพ่อแม่ จะมีวิธีใดที่น่าสนใจบ้างนั้นไปติดตามกันเลย
1. การเตรียมความพร้อมก่อนที่จะมีน้อง
หลายคนมองข้ามตรงจุดนี้ไป แต่ถือว่าเป็นอันดับแรกเลยที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญ เพราะเด็กก็เหมือนกับผู้ใหญ่ ที่ต้องการปรับตัวเช่นกัน โดยก่อนที่จะวางแผนมีลูกอีก 1 คน จำเป็นอย่างมากที่จะต้องรอให้พี่ เข้าใจถึงคำว่า พี่น้อง เสียก่อน จะทำให้เขารู้สึกผูกพัน และเข้าใจว่าในอนาคตที่จะเกิดขึ้นนั้นจะมีลักษณะเป็นอย่างไร เมื่อเขาเข้าใจคำว่าพี่น้องแล้ว ลูกจะค่อยๆปรับตัว และทำหน้าที่พี่ได้ดีมากขึ้น โดยอาจจะฝึกจากการเล่านิทานเกี่ยวกับพี่น้องให้ฟัง บอกให้ลูกเข้าใจว่าการมีพี่น้องนั้นมีข้อดีอย่างไรบ้าง และสิ่งที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่จะต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูกคนโต ว่าถึงแม้จะมีลูกคนเล็ก แต่ความรักที่มีให้กับพี่คนโตก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่ลดน้อยลงไปไหน และยังคงมากขึ้นในทุกๆวัน
2. ไม่กดดันพี่คนโต
ทำความเข้าใจกับคนในครอบครัว ว่าลูกไม่เคยมีประสบการณ์เป็นพี่มาก่อน ดังนั้นจึงต้องให้เวลาที่ลูกจะปรับตัว หลีกเลี่ยงคำพูดกดดัน ที่จะยัดเยียดความเป็นพี่ให้กับเขา ซึ่งเขาจะรู้สึกว่า คำพูดของคุณพ่อคุณแม่นั้นคิดถึงแต่น้อง โดยที่ไม่สนใจความรู้สึกของตัวเขาเลย ผลกระทบที่ตามมาคือ พี่คนโตจะไม่รู้สึกภูมิใจ และดีใจในสถานะความเป็นพี่ที่เขาเป็นอยู่ อาจจะมีอารมณ์อิจฉาริษยาน้องขึ้นมาบ้าง หรือในเด็กบางคนอาจจะรู้สึกน้อยใจ เศร้าเสียใจ ที่สถานการณ์มันไม่เหมือนเดิมที่เคยเป็นมานั่นเอง ดังนั้นต้องเริ่มจากที่คุณพ่อคุณแม่เป็นหลักเลยพยายามแสดงความรักกับพี่คนโตให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้เขารู้สึกถึงการขาดความรักนั่นเอง
3. สนับสนุนให้ลูกพูดความรู้สึกออกมาให้มากที่สุด
ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์ใดก็ตามสิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องทำคือ รับฟังความคิดเห็นของลูกก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะตัดสินว่าใครผิดหรือใครถูก โดยที่หลีกเลี่ยงให้พี่คนโตจะต้องเสียสละเพื่อน้องในทุกเรื่อง เพราะนั่นจะทำให้ลูกรู้สึกถึงความไม่เสมอภาค ยึดหลักความถูกต้องด้วยวิธีการประนีประนอมอย่างอ่อนโยน ไม่จู้จี้จุกจิกกับลูกคนโตมากจนเกินไป ปล่อยให้เขาได้เล่นอย่างอิสระ โดยเฉพาะในเรื่องของเล่น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องระมัดระวังเลยคือการดุด่าว่ากล่าวพี่ว่าแย่งของเล่นน้อง ให้ทำความเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติของเด็ก สอนให้รู้จักแบ่งปันกันทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะแค่พี่ที่ต้องเสียสละเพียงอย่างเดียว สิ่งเหล่านี้ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ตาม แต่มีผลต่อจิตใจของลูกคนโตเป็นอย่างมาก
4. มีเวลาเฉพาะบุคคลให้กับลูก
เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะยืนยันถึงความรักและความใส่ใจที่คุณยังคงมีต่อลูกคนโต ที่เขาจะสามารถสัมผัสได้ไม่ใช่เพียงแต่คำพูดเท่านั้น โดยแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่แบ่งเวลาอย่างน้อยวันละ 20 นาที ที่จะมานั่งเล่นหรือนั่งพูดคุยกับลูกเป็นการส่วนตัว สิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกสัมผัสถึงความรักที่ยังคงมีอยู่ จะช่วยให้ลูกมีความเป็นตัวของตัวเองมากยิ่งขึ้น ไม่เป็นเด็กเก็บกด โดยคุณพ่อคุณแม่จะต้องสนับสนุนให้พูดความรู้สึกที่มีออกมา โดยที่ไม่กดดันลูก ช่วงเวลาเหล่านี้จะทำให้คุณเข้าใจความรู้สึกของลูกคนโตมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็จะได้รู้วิธีการแก้ไขและแนวทางการปฏิบัติตัวในอนาคตกันต่อไปนั่นเอง
5. ปล่อยเวลาให้ลูกคนเล็กได้เล่นเพียงลำพังบ้าง
ถึงแม้ว่าลูกคนเล็กนั้นจะอยู่ในช่วงวัยที่ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดก็ตาม แต่ถ้าหากคุณใช้เวลาทั้งหมดที่มีไปกับลูกคนเล็ก จะไม่เหลือเวลาให้กับลูกคนโตเลย ดังนั้นแนะนำว่า ให้คุณจัดเตรียมพื้นที่ที่ปลอดภัย ปล่อยให้ลูกได้เล่นคนเดียวดูบ้าง โดยการเฝ้าดูอยู่ห่างๆ คุณพ่อคุณแม่จะมีเวลาให้กับลูกคนโตเพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องดูความเหมาะสมและสถานการณ์เป็นหลักเพื่อความปลอดภัยของเด็กๆนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ แนวทางการ เลี้ยงลูกคนโตไม่ให้ขาดความรัก ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ จะเห็นได้ว่า การใส่ใจความรู้สึกของลูกคนโตนั้นมีผลสำคัญต่อพฤติกรรมและการใช้ชีวิตในปัจจุบันของเด็กเป็นอย่างมาก เพื่อไม่ให้เด็กรู้สึกโดดเดี่ยว จะต้องเริ่มที่คุณพ่อคุณแม่เป็นหลัก ต้องทำตัวให้เป็นกลาง แสดงความรักกับพี่คนโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถดูแลตัวเองได้ ระมัดระวังคำพูดที่จะกระทบต่อจิตใจ รวมถึงการกระทำเล็กๆน้อยๆที่อาจจะบ่งบอกถึงความใส่ใจของคุณพ่อคุณแม่ที่มีต่อลูกทั้งสองคน โดยแนวทางที่เรานำมาฝากดังกล่าวข้างต้นนี้สามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ได้กับทุกบ้าน ถือเป็นอีกหนึ่งอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ลูกสองเลี้ยงลูกได้ง่ายและเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขนั่นเอง